ชมรมเจ้ามือหวย

  ซึ่งก็จะช่วยทำให้สะดวกรวดเร็ว รู้สึกถึงความมั่นใจได้ เพราะที่นอนเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นเส้นผม คราบสกปรกต่างๆ รวมถึงตัวไรฝุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณซื้อไว้ใช้นอนเพื่อการใช้งานในระยะยาว  เพื่อป้องกันไม่ให้ฟูกที่นอนเสื่อมสภาพหรือกลายเป็นสิ่งที่ทำลาทำความสะอาดที่นอน (http://ncscleanbed.com) ทำความสะอาดที่นอน
 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  อาจยังมีปัญหาที่จะต้องจัดการอีกหลายอย่าง  แม้แต่เรื่องของกลิ่นอับ หรือคราบเหงื่อไคล ที่มักจะเหลือทิ้งไว้เป็นของดูต่างหน้า แต่ไม่ต้องกังวลใจเพราะสามารถกำจัดได้ง่ายๆ  เพียงแค่สลายคราบเปื้อนได้ด้วยการใช้เบกกิ้งโซดาหรือแป้งฝุ่น ซึ่งอาจจะใช้น้ำยาทำความสะอาดชนิดที่มีเอนไซม์หรือไซตรัส ที่เป็นสารกลั่นจากธรรมชาติก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นมังคุด มะกรูด มะนาว หรือจะใช้น้ำส้มสายชู ฉีดพรมทำความสะอาดให้ทั่วแล้วค่อยจัดการโรยผงเบกกิ้งโซดาที่มีสรรพคุณในการช่วยซึมซับดูดคราบน้ำออกมาให้หมดหรือจะโรยด้วยแป้งฝุ่นทาตัวช่วยเพิ่มกลิ่นหอมติดและช่วยในการซับน้ำ หลังเสร็จสิ้นการทำความสะอาf ก็ควรจะนำที่ฟูกนอนไปตากแดดประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อเป็นการป้องกันกรณีอับชื้น   ทำความสะอาดที่นอน
 แม้แต่เชื้อราที่ฝังลึกบนที่นอนก็ต้องรีบกำจัดให้เร็วที่สุด จะได้ไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคหรือภูมิแพ้  ความสกปรกไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็อาจที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าหลังจาก ทำความสะอาดที่นอน

 และการจัดการกับปมปัญหาเหล่านั้น เพื่อให้ส่งผลทำให้คุณมีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้น หลังจากอาจเกิดอาการหลับไม่สนิทเป็นแรมเดือน  ทำความสะอาดที่นอน

 การ ทำความสะอาดที่นอน
  ที่เป็นคราบสกปรกและกลิ่นต่างๆ จะหายไป แต่อย่าลืมว่าที่นอนเป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะความอับและทำให้เป็นบ่อเกิดแห่งเชื้อราโดยที่ไม่รู้ตัว การจัดการกับเชื้อราที่ฝังลึกก็สามารถทำได้หลายวิธีตามที่ได้กล่าวไป และจะต้องทำความสะอาดฟูกที่นอนทั้งสองด้านซ้ำไปมาจนเชื่อมั่นว่าเชื้อราที่ฝังตัวตายจนหมด เห็นเลยว่าคุณไม่ควรละเลยเพราะจะมีผลต่อสุขภาพในระยะยาวหากที่นอนของคุณฝังด้วยเชื้อราและแบคทีเรียอยู่ภายใน ซึ่งจริงๆ แล้วเราจะต้องอยู่ ในที่นอนของตัวเอง อย่างน้อย 6-8 ชม ในแต่ละวัน  ทำให้เรื่องการทำความสะอาดฟูกในที่นอน  จึงเป็นเรื่องสำคัญและไม่ควรมองข้าม ควรต้องดูแลทำความสะอาดอยู่อย่างมาโดยตลอด เพราะไม่เช่นนั้น ไรฝุ่นซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ จะเจริญเติบโตขึ้นในที่นอนอยู่ทุกวันแถมยังมีการเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็ว  มีการสำรวจพบว่าที่นอนโดยทั่วไปจะมีตัวไรฝุ่นอยู่มากถึง  1-2 ล้านตัว ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิ แพ้เพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญเด็กเล็กๆ อายุยังน้อยก็เป็น โรคภูมิแพ้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ทำความสะอาดที่นอน

 การ ทำความสะอาดที่นอน
 อุณหภูมิบ้านเราจะค่อยๆ ลดต่ำลงบ้าง ยิ่งในช่วงเวลาฤดูฝนที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่หน้าหนาว แต่ไม่ว่าจะเป็นหน้าไหนๆ ก็ยังคงมีความอบอ้าวของอากาศที่ร้อนเวอร์จนเหมือนจะละลาย แถมคงทำให้บางคนนอนหยดเหงื่อไหลไคลย้อยทุกวัน เพราะ ทำความสะอาดที่นอน
 สภาพอากาศที่อบอ้าวอยู่ทุกเวลา แต่ทราบกันหรือไม่ว่าในขณะที่คุณนอนหลับใหลบนที่เอนหลังและหมอนนุ่มๆ อย่างเย็นสบายนั้น  ใครจะไปประมาณการคิดว่ายังมีสิ่งเขรอะอย่างไรฝุ่นหรือเชื้อโรคอื่นๆ ที่ตามติดและกำลังกล่อมเกลี้ยงจนอาจทำให้เป็นการกวนช่วงเวลาของการนอนหลับที่แสนสบาย วิธีการ ทำความสะอาดที่นอน
  ที่มีรอยคราบน้ำต่างๆ อาจทำให้เกิดความชื้น หากนำที่นอนที่ใช้งานมาเกิน 1 ปี นำออกมาดูดน้ำหรือความชื้นออก อาจพบทั้ง ฝุ่น ไรฝุ่น หรือคราบไคล รวมทั้งเส้นผม  และคราบสกปรก ต่างๆ ซึ่งฝังและสะสมอยู่ในที่นอนได้ ซึ่งในปัจจุบันมีเครื่องสำหรับดูดน้ำจากที่นอนออกทำให้การทำความสะอาดฟูก ตามร่อง ตามซอกต่างๆ จึงทำได้ง่ายขึ้น   คุณอาจจะหมั่นทำความสะอาดฟูกเป็นประจำเพื่อที่คุณจะได้หลับสบายบางคนไม่มีเวลาก็จะใช้วิธีจ้างบริษัทให้มาจัดการทำความสะอาดฟูก ด้วยการดูดน้ำ สูบ ความชื้นและ ทำความสะอาดที่นอน
 เริ่มต้นด้วยการกำจัดฝุ่นจากที่นอนก่อน ซึ่งถือเป็นขั้นตอนเบื้องต้นของพื้นฐานในการทำความสะอาดฟูก และการทำความสะอาดชุดเครื่องนอนเช่นเดียวกัน  ซึ่งคุณสามารถเลือกว่าจะใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือการปัดตีกลางแดด เพื่อเป็นการจัดการกับไรฝุ่น หรือจะใช้เตารีดรีดผ้าปรับองศาความร้อนให้แยบยล แล้วทำการไล่ไถบนฟูกที่นอนแบบครบทุกตารางนิ้ว ว่ากันว่าจะสามารถฆ่าตัวไรฝุ่นได้ผลชะงักไม่แพ้กัน  มีพืชสมุนไพรอย่างอบเชยและก้านพลู รวมทั้งสารสกัดจากดอก Chrysanthemums และน้ำยาสกัดสมุนไพรฆ่าไรฝุ่นโดยเฉพาะ ที่เป็นของศูนย์บริการและวิจัยไรฝุ่นศิริราชได้คิดค้นขึ้นก็เหมาะที่จะนำมาใช้ก่อนและหลังทำความสะอาดได้เช่นกัน ความสกปรกของที่นอนเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นไรฝุ่น ฝุ่น หรือแม้แต่กลิ่นอับและรอยคราบสกปรกต่างๆ  ทำความสะอาดที่นอน

      ทำความสะอาดที่นอน
 หลังจาก ทำความสะอาดที่นอน