หัวข้อ: ตำนานแห่ง กำเนิด ลิปสติก การเดินทางแห่งข้อคดีสง่างาม ของหญิงสาว
เริ่มหัวข้อโดย: JoshuaPowell25 ที่ มีนาคม 15, 2017, 03:13:16 pm
คะ ด้วยสีสันที่สามารถสร้างสรรค์ได้หลากหลายเฉดสี เมื่อเกี่ยวมาแต่งชั้นเชิงลงบนส่วนล่างฝีปากของหญิงรุ่นจากนั้น จะช่วยทำแจกใบหน้าของสาวๆดูโดดเด่นสะดุดตาขึ้นมาทันที ถึงแม้คนที่มิติดใจภูษิตหน้าเสริมแต่งตาใดๆเกินก็ตาม เพียงแค่แต้มลิปสีบางๆลงบนข้างฝีปากเบาๆ ก็ทำให้หน้าตาดูสวยงามสดชื่น ดูสุขภาพดีขึ้นทันทีพ้นทีเดียวประวัติของ ลิปสติก
เริ่มมีสีสันและก้าวเข้าสู่สังคมในฐานะสินค้าทางธุรกิจที่รุ่งแตกฉาน ตั้งแต่กาลเวลา 1930 โดยครันธุรกิจสาว นามว่า อลิสซาเบธ อาเดน เจ้าของบ. Elizabeth Arden, Inc ผู้นำเทรนด์งานทาลิป และทำการสร้างสรรค์สรรค์ผลิตเฉดสีของลิปให้หลากอเนก ด้วยกันสวยงามยิ่งขึ้น แม้กระนั้นสาวๆในยุคนั้นก็ยังคง เขินอาย ไม่เบาอาจหาญเปลืองกันสักแค่ไหร่ เพราะคดีเชื่อในสมัยตรงนั้นว่าสาวๆที่ทาลิปสติก (http://estellaesthetic.com/) ลิปสติก
จะถูกเครื่องแสดงหน้าว่าสดหญิงสวยเมือง เด็กสาวทั้งหลายแตกต่างถูกหยุดปรามมิอุปถัมภ์ประดับด้านหน้าเพราะสังคมในระยะเวลานั้นอีกทั้งไม่ยอมรับสารภาพเท่าถิ่นสมควร จนกระทั่งปี 1950 ในสมัยที่ดาวฮอลลีวู้ดเริ่มกลายเป็นไอดอลของใช้รุ่นๆในระยะเวลานั้น ดารานำอย่าง มาริลีน มอนโรว์ และ อลิสซาเบธ เทย์เลอร์ ทำให้กระแสการทาโอษฐ์ กลับมาอีกโอกาส โดยเฉพาะ เทย์เลอร์ นั้น คลั่งใคล้งานทาลิปสีแดง มากเสียจนตะโกนสั่งห้ามไม่ให้นักแสดงคนอื่นๆในกองทาปากสีชาดอาทิเช่นโทนกับเธอผ่านพ้นทีเดียวพร้อมกับในปี 1952 นางท้าว อลิสซาเบธที่ 2 ก็ทรงรับตะโกนสั่งให้ทำลิปสีพิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะ โดยเป็นสีแดงเฉดเดียวกับวัตถาภรณ์คลุมของพระองค์ โดยใช้สมัญญาลิปสีเยี่ยมนี้ว่า The Balm ลิปสติก
กับหญิงดึงนั้น ก็กลายเป็นเรื่องอยู่ข้างกันมาโดยตลอด มีบางช่วงที่การทาสีปากตรงนั้นแปรไปเป็นตัวแทนสัญลักษณ์ในทางที่อยู่ไม่ดี เช่น ในช่วงเวลาก่อนก็มีความเชื่อที่ว่า หากหญิงสาวคนไหนทาปากหมายความว่าสีแดง ก็จะมีงานกล่าวหาว่านางคนตรงนั้นเป็นแม่มด โดยเชื่อกันว่าการใช้สีเกลาแต้มทาปากตรงนั้นเพราะว่าต้องงานยั่วยวนเพศชาย อีกทั้งในช่วงยุคมืดและยุคระหว่างกลาง งานทาโอษฐ์นั้นก็แปรไปเป็นสิ่งต้องห้ามในสังคมชั้นอุจของยุโรป เหตุเพราะเปลี่ยนไปเป็นกายแทนเครื่องใช้หญิงชั้นเลวทรามต่ำช้าและกลุ่มหญิงสาวค้าบริการ หรือกระหรี่นั่นเองค่ะ นอกเดินทางตรงนี้ ยังมีในเบาบางเวลาที่การทาลิปนั้น กลายเป็นที่นิยมกันในหมู่ผู้ชาย โดยด้านหลังเหน้าในสมัยนั้นจะมีการแต่งสิ่งของแบบเต็มยศพร้อมทั้งมีงานใช้วิกผมด้วย โดย จอช วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกสิ่งสหรัฐอเมริกา ก็การกำหนดทาปากด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในยุคนั้นถือเป็นการแสดงคลอดจวบจวนชนสถานภาพและตำแหน่ง อีกด้วย ลิปสติก
นั้น ต้องย้อนกาลไปไกลจวบจวนในกาลสมัยคราวของ สาวๆในเวลาเมโสโปเตเมีย หรือกว่า 5,000 ปีก่อนเชียวนะคะ โดยสาวๆสมัยตรงนั้นจะนำอัญมณีล้ำคุณประโยชน์ต่างๆมาบดให้เป็นผง แล้วปณีตแต่งแต้มลงบนใบใบหน้า ทั้งบริเวณรอบชะตาตาด้วยกันการทาลงบนริมฝีปากค่ะ พร้อมกับในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ก็มีหลักฐานสิ่งชัดเจนที่แสดงให้เห็นว่า รุ่นๆในยุคโบราณนั้นมีการทาริมฝีปากเพราะด้วยสีแดงเพื่อเพิ่มสีสันเรียวปากให้สดใส พลัดพรากการค้นพบหลักฐาน ณ ที่แบนเรียบลุ่มเมโสโปเตเมีย ได้ขุดค้นพบกลักใบหนึ่ง และสิ่งที่บรรจุอยู่ในลังโบราณนั้นก็คือ สีทาปาก นั่นเอง แถมยังมีต้นแบบฐานอีกจากการค้นพบกระดาษปาปิรุสโดยบนกระดาษตรงนั้นเป็นภาพหญิงสาวชาวอียิปต์กำลังถือกระจกและแต่งคะแนนรีปากอยู่ นอกจากนี้ยังมีบ้องมูลบ่งชี้ไว้ว่าเหน้าๆในยุคโบราณนั้นต่างชื่นชอบพร้อมด้วยมักนิยมเติมสีสันให้แก่ชายขอบฝีโอษฐ์ด้วยผลเบอร์รี่สีแดงและห้วงน้ำผลไม้สีสดชนิดต่างๆอีกด้วยอย่างไรก็ตามในระยะเวลาก่อนนั้น ตอนของ ลิปสติก
เรื่องของความวิจิตรความงามสำหรับหญิงสาวนั้น แน่งีบว่าเป็นสิ่งที่สาวๆต่างให้ความสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่งล่วงใช่ไหมคะ? รุ่งสมญานามว่าเกิดหมายความว่าผู้หญิงแล้วน้อยคนนักที่จะมิสนใจบทสวยๆสวยๆนะคะ ความรักความชอบในการแก้ไของค์ทรงเครื่องให้สวยงามงามควรมอง เป็นสันดานที่เกยตัวมาตั้งเท่านั้นปรากฏเครื่องใช้ผู้วนิดา พ้นทีเดี่ยวเครื่องสำอางเป็นเครื่องเคราย่านได้รับคดีนิยมจนเรียกว่ากลายเป็นปัจจัยที่สำคัญในการใช้ชีวิตในวงการสมัยใหม่นี้ไปแล้ว โดยเฉพาะสาวๆเขตออกไปทำงานนอกบ้าน แตะต้องพบปะผู้คนมากมาย เพราะด้วยตำแหน่งและข้างหน้าที่ ทำส่งเสียแตะต้องสร้างบุคลิกที่น่าเชื่อฟังถือ เนื่องด้วยรูปลักษณ์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเปล่าแพ้กระแสความรู้ความสามารถและความถนัดในการทำงานล่วงเลยนะคะ ราวกับนั้นสาวๆช่วงเวลานี้จำเป็นอย่างเป็นยอดที่จะจำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องมือสำอางเป็นตัวช่วยเพื่อเสริมบุคลิกส่งเสียน่าดูเชิญชวนมองขาหนึ่งในเครื่องสำรวยที่ศักยช่วยสร้างเสริมบุคลิกภาพให้พร้อมผู้หญิงๆนั้น ก็คือ ลิปสติก