หัวข้อ: คอลลาเจน collagen ผิว ความสวยงาม กระดูกและรอยต่อ เกี่ยวกันอย่างไร
เริ่มหัวข้อโดย: JoshuaPowell25 ที่ มีนาคม 15, 2017, 07:11:58 pm
เข้าร่างกายจึงเป็นวิถีทางที่ได้รับความแบบมากในปัจจุบัน collagen คือโปรตีนที่มีอยู่มากมายในผิวหนังและกระดูก ธรรมดาจะมีอยู่ในร่างกายถึง 29 ชนิด สามารถได้มาจากสัตว์หลายตระกูลเช่น ปลา วัว หมู อย่างปลาได้จากเกล็ดปลา วัวได้จากหนังและกระดูกเป็นส่วนใหญ่จะอยู่ที่หนังและกระดูก แมว้าในเนื้อตัวเรามีคอลลาเจน (http://sabuycare.com/?lang=th) คอลลาเจน
เป็นส่วนประกอบที่สำคัญทั่วร่างกายเรา การเสริม คอลลาเจน
collagen ผิว ความงาม กระดูกและข้อต่อ เกี่ยวกันอย่างไร ข้อต่อ กระดูกและ คอลลาเจน
collagenอยู่ 29 ชนิด แต่มีความสำคัญต่อร่างกายจริงๆเพียงแค่ 4 ชนิด ในสี่ชนิดนี้มีเพียง 1 กลุ่มทีมีความสำคัญมากที คอลลาเจน
เยอะแยะไปหมดเลย และมีเกลือแร่ที่ให้ความแข็งแรงของโครงสร้างของกระดูก งานที่จะทำให้กระดูกแข็งแรงหากว่าการออกกำลังไปด้วยเป็นการบอกว่าเราต้องรับภาระหน้าที่หนักที่ให้มีการ การสร้างกระดูกใหม่มาทดแทนขึ้นอยู่กับว่าเราใช้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเราใช้น้อยกระดูกก็รองรับสถานะการใช้น้อยแต่ถ้าเราใช้เยอะกระดูกก็จะรับสภาวะการใช้เยอะกระดูกก็จะคงทนถาวรขึ้น คอลลาเจน
collagen มันเกี่ยวกันอย่างไร เวลาคนพูดถึงมักจะพูดถึงผิว ความสวยงามเป็นหลัก แต่เรื่องของกระดูกจะช่วยได้อย่างไร สมมุติกินไปจะช่วยได้อย่างไร ถ้าทานไปร้อยแล้วเราจะได้ร้อยหรือไม่ เวลาเราเล่นกีฬาอายุยังน้อยก็มีเสียงตรงเข่ากระดูกจะมี จริง ๆ แล้วก็แปลกปัญหาเรื่องกระดูกน่าจะมีตอนอายุมากแล้วสิ เราไปหาคำตอบกัน เรื่องกระดูกและข้อต่อเป็นปมปัญหามากสำหรับผู้สูงอายุเลยก็ว่าได้ แต่คนอายุตั้งแต่ 35ปีขึ้นไปก็สามารถมีโจทย์กระดูกได้เหมือนกัน ส่วนมากคนมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกเป็นได้พบได้เรื่องของกระดูกพรุน กระดูกบางในเนื้อความผู้สูงอายุ รวมทั้งเรื่องของการเกิดสถานะเรื่องของข้อเข่าเสื่อม การเสื่อมของบริเวณกระดูกสันหลัง หรือตามข้อต่อต่าง ๆ แต่เดี๋ยว สูงอายุนี่บางทีอาจจะรู้เรื่องว่า 60 หรือ 70 ปี แต่ในทางการแพทย์เริ่มมีความโทรมหลังจากอายุ 30-35 ปีก็จะมีโครงสร้างของร่างการแปรเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงในทางที่เริ่มจะตกต่ำ ใช้งานได้ลดน้อยลงในกรณีของผู้สูงอายุจะพบเรื่องของความเสื่อมถอยที่มากพอ ๆ กับอายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะกระดูกสันหลังเสื่อม นอกจากนั้นยังมีความเสื่อมของข้อต่อต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ข้อเข่าเสื่อม พบว่ามีลักษณะของขาโก่งผิดลักษณะไปทำให้มีการลงน้ำหนักที่จุดใดจุดหนึ่งยิ่งกว่าปกติ พออายุเรามากขึ้นบางทีความหนักเบาตัวอาจจะมากขึ้นไปด้วย ขาดการออกกำลังกาย ซึ่งทำให้ขาเริ่มมีการผิดรูปไปทีละน้อยๆ เราอยู่ด้วยกันทุกวันจนไม่ทันสังเกตว่าเริ่มมีการแปรเปลี่ยนโครงสร้างของกระดูก ระหว่างกระดูกแต่ละปล้องจะมีเนื้อเยื่ออยู่ด้วย กระดูกสันหลังจะประกอบไปด้วยกระดูกแต่ละปล้องมาจัดต่อกัน ระหว่างกระดูกแต่ละปล้องจะเป็นหมอนรองกระดูก ความเสื่อมพบได้หมดตั้งแต่หมอนรองกระดูกสันหลังทรุดโทรมเองหรือว่ารูปกระดูกเสื่อม กระดูสันหลังเสื่อมเหตุของความเสื่อมเกิดจากโครงสร้างที่เป็นน้ำมันลดลงไปทำให้ความยืดหยุ่นมันเสียไป ในวัยหนุ่มสาวความยืดหยุ่นยังดีอยู่การกดคลึงตัวของหมอนรองกระดูกสันหลังยังดีอยู่ก็ไม่ค่อยมีข้อสงสัยแต่พอหลังอายุ 35-40 ปีไปแล้วส่วนประกอบที่เป็นน้ำมันลดลงไปทำให้ความยืดหยุ่น การคลึงตัวมันเสียไป สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าให้ความหนักเบาตัวเยอะเพราะส่วนที่รับน้ำหนักที่สุดคือกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูกสันหลังเป็นแกนกลางที่รับภาระหนักที่สุด วิธีการดูแลตัวเองสิ่งที่สำคัญคือการออกกำลังกายเพื่อไม่ให้น.น.ตัวเรามากจนเกินไป มีการบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้องกล้ามหลัง การทำงานนั่งอยู่หน้าจอที่ต้องอยู่กับที่ไม่มีการเคลื่อนทำให้กระดูกโดนกดทับถึงจะอยู่นิ่ง ๆ แต่กล้ามเนื้อมีการหดเกร็งตัว นานเข้าก็จะปวดตัวปวดหลังปวดไหล่ ปวดสะบัก ทำแต่ถ้าเรามีการเขยื้อนตัว มีการเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อจะมาการหดเกร็งตัวพร้อม ๆ กับการคล้ายตัวมีการทำหน้าที่ของกล้ามเนื้อได้ดี การออกกำลังกายอาจจะไม่ต้องมากก็ได้ จะทำให้กระดูกทนขึ้นได้รวมทั้งกล้ามเนื้อรอบๆกระดูกก็จะทนขึ้นด้วย ในกรณีของการปวดเข่าการออกกำลังกายด้วยการวิ่งอาจทำไม่ได้ถึงกระนั้นสามารถบริหารกล้ามเนื้อต้นขาสามารถทำได้ ด้วยการนั่งแล้วยกขาเหยียดขึ้นให้สุดแล้วเกร็งไว้ นับ 1-10 ค้างไว้ แล้วปล่อยลงมาก็เป็นการบริหารช่วงต้นที่สามารถทำได้ หรือการเดินบนพื้นราบก็ทำได้ ในกระดูกของเราประกอบด้วยส่วนที่เป็นกระดูกชั้นนอก และกระดูกที่เป็นโพลงกระดูกด้านใน ซึ่งในทั้งส่วนนี้ต้องทำงานร่วมกัน ในส่วนของโพลงกระดูกด้านในประกอบไปด้วยเยื่อ คอลลาเจน