ชมรมเจ้ามือหวย

  ที่มีราคาถูก การคายประจุจะเร็วกว่าอันที่เป็นยี่ห้อดี ๆ และราคาสูงกว่า เพราะฉะนั้น อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับเพื่อนๆ แล้วว่า ต้องการแบบไหน แต่ถ้าใครไม่ได้ตึงเครียด ก็เน้นแค่ว่า ให้เราสามารถใช้พอในแต่ละวันก็พอเพียงแล้วครับเรื่องที่ 4. เรื่องสุดท้ายเป็นเรื่องของการตรวจอุปกรณ์ที่เราใช้ ว่าสมาร์ทโฟนที่เราใช้นั้น มีความจุของแบตเตอรี่เท่าใดเพื่อให้เราสามารถคำนวณและซื้อpower bank มาใช้ได้อย่างพอตลอดวันครับโดยหากเป็นพวก iphone อาจจะมีความจุน้อยกว่ายี่ห้ออื่น ๆ และแบตหมดรวดเร็วมาก เพราะเช่นนั้น เพื่อน ๆ ต้องหาข้อมูลให้ดี ๆ ว่าโทรศัพท์เรานั้นมีความจุเท่าไหน เพราะจะได้ไม่เป็นการเสียเงินทองที่เสียเปล่าครับ เพื่อการใช้งานสะดวกราบรื่นตลอดวันของเราครับต่อไปเราจะมาพูดกันถึงเรื่องของการดูแล พาวเวอร์แบงค์
  สิ่งที่เราต้องรู้ว่าเราควรซื้อหาแบบไหน อย่างแรก เราจะต้องเข้าใจก่อนว่าโทรศัพท์หรือสมาร์ทโฟนที่เราใช้นั้น มีความจุเท่าไร เพื่อให้เราคำนวณการใช้งานเพื่อให้พอใช้ในแต่ละวัน และโดยปรกติแล้ว power bank จะมีความจุตั้งแต่ 2,000-30,000 mAh โดยอย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า หากแบตสำรองยิ่งมีความจุมากเท่าใด ก็จะยิ่งบรรจุไฟได้มาก และเราก็สามารถใช้ได้นานมากขึ้นด้วย แต่สิ่งที่ต้องยอมรับก็คือ เรื่องของเวลาในการชาร์จแบตให้กับเจ้า powerbank ก็อาจจะใช้เวลานานมากกว่าพวกความจุน้อย โดยธรรมดาหากเป็นอันที่มีความจุ 20,000 mAh ขึ้น อาจต้องใช้เวลาในการชาร์จให้เต็มเป็น 10 ชั่วโมงก็ได้และในเรื่องของราคาก็อาจจะสูงขึ้น หรือแพงกว่ารุ่นที่แอมป์น้อย ๆ ด้วย เพราะเช่นนั้น ข้อนี้ ก็แล้วแต่ความอยากของเพื่อน ๆ ว่าอยากได้จำนวนความจุแค่ไหนนะครับเรื่องที่ 2. เรื่องราวของราคา เป็นที่แน่ๆอยู่แล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องทีสำคัญต่อการตกลงใจของเพื่อน ๆ หลาย ๆ ท่านเลยก็ว่าได้ เนื่องจากราคาจะมีเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพันเลยทีเดียว โดยหากเป็นพาวเวอร์แบงค์ (http://cmpowerbank.com) พาวเวอร์แบงค์
 เพราะว่าสามารถใช้งานได้ทุกๆ ที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องพึ่งปลั๊กไฟ และในวันนี้ เรามาชี้ช่องทางเรื่องของการเลือกซื้อ ว่าเราควรจะดูยังไงบ้าง และมีวิธีการดูแลรักษาไอเจ้าเครื่องมือชิ้นนี้อย่างไร ไปดูกันครับก่อนอื่นเลยสิ่งที่เราต้องรู้จักกันซะก่อนคือหน่วยของความจุของแบตเตอรี่ ซึ่งในสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่น จะมีจำนวนความจุที่ไม่เท่ากัน และหน่วยของมันก็คือ mAh หรือมิลลิแอมป์ต่อชม. ซึ่งในส่วนของเจ้าแบตสำรองนี้ ก็มีหน่วยเป็น mAh เช่นกัน ยิ่งค่าความจุเยอะแค่ไหน ก็จะทำให้ยิ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้มากมายเท่านั้น ซึ่งวิธีการคัดเลือกซื้อนั้น เราควรวิเคราะห์จากอะไรบ้าง มาลองดูกันครับเรื่องที่ 1. เรื่องของความจุของเจ้า พาวเวอร์แบงค์

 ยุคนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคของเทคโนโลยี ที่เข้ามามีบทบาทในความเป็นอยู่ของเราเป็นอย่างสูง และสิ่งอำนวยความสบายต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นหรือกำเนิดขึ้นมาให้สนองตอบความอยากได้ของผู้ซื้อ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ พาวเวอร์แบงค์

  หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในชื่อของแบตเตอรี่สำรอง ซึ่งเป็นวัสดุอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันเพราะว่าด้วยเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้คนหันไปนิยมใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน และเล่นกันได้ตลอดวัน แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตในทุกวันไปเลยก็ว่าได้ โดยสำหรับบางคน ลืมตาตื่นขึ้นมา ก็หยิบโทรศัพท์มาเช็ค Line,Facebook,Twitter กันเป็นอันแรกก่อนจะลุกไปอาบน้ำทำธุรประจำตัวในเช้าเลยก็ว่าได้ ซึ่งผม เป็นหนึ่งในนั้น ไม่ว่าจะทำสิ่งไร เราก็มักจะติดเล่นโทรศัพท์มือถือไปด้วยทั้งนั้น ทั้งเข้าห้องน้ำ กินข้าว หรือแม้แต่นั่งรถสังเกตได้จากผู้คนที่ขึ้นรถไฟฟ้า หรือรถเมล์ ต่างคน ก็ต่างนั่งเล่นโทรศัพท์ และก็ไม่แปลกที่ในหนึ่งวัน แบตเตอรี่ของโทรศัพท์ก็จะไม่พอใช้ หรือหมดไป ซึ่งสิ่งที่มาแก้ไขปัญหานี้ ก็หนีไม่พ้น แบตสำรอง หรือ พาวเวอร์แบงค์
  กันครับว่าเราควร พาวเวอร์แบงค์
 ที่มียี่ห้อ และความจุมาก ราคาอาจจะสูงกว่ารุ่นปรกติที่มีความจุน้อย แต่หากเราซื้อมาใช้ ก็เน้นที่มันมีคุณภาพและได้หลักเกณฑ์จะดีที่สุดนะครับเรื่องที่ 3. เรื่องประเภทของแบตเตอรี่ เรื่องนี้ก็ถือว่าสำคัญไม่แพ้กัน เพราะว่าในการผลิตแบตเตอรี่สำรองนั้นจะมีชนิดของแบตอยู่ 2 แบบ คือ 1.แบบลิเธียมไออน และ 2.แบบลิเธียมโพลิเมอร์ โดยหากเพื่อนๆ จะเลือกซื้อ ผมแนะนำว่า ควรเลือกซื้อที่เป็นแบบ ลิเธียมโพลิเมอร์ เพราะว่าจะมีประสิทธิภาพที่สูงกว่า แต่ราคาก็อาจแพงกว่านะครับ เรื่องที่ 3. เรื่องของความเร็วการคายประจุ เรื่องนี้ก็สำคัญไม่แพ้กันเพราะในตัวแบตเตอรี่สำรองนั้น ถ้าเราทิ้งแบตสำรองไว้ ความจุของมันจะค่อย ๆลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่มีออกมาเป็นที่ชัดเจน ว่ายี่ห้อไหนที่มีการคายประจุได้ไวกว่ากัน แต่หากเป็น พาวเวอร์แบงค์