หัวข้อ: มีร้านรับซื้อรถมือสองตีราคารถราคาดีมากอุตส่าชอบใจสุดท้ายถูกโกหกเจ็บใจสุดๆ
เริ่มหัวข้อโดย: hiroji999 ที่ กรกฎาคม 03, 2015, 11:47:23 pm
ร้านรับซื้อรถมือสอง เดี๋ยวนี้ เกิดขึ้นมาท่วมท้นมาย ยิ่งกว่า เซเว่น เสียอีก มีทั้งน่าเชื่อถือ และ ไม่น่าไว้ใจ ตอนนี้ พฤติกรรม ผู้บริโภค มันเปลี่ยนไปเยอะมากครับ เมื่อ จึงทำให้ผู้รับซื้อรถมือสอง ปรับเปลี่ยน ไปด้วย เมือก่อนจะขายรถ กันทีก็ต้องวิ่งเข้าหาเต็นท์รถ กันเป็นว่า เล่น เข้าเต็นท์โน่น ที เข้าเต้นท์นี้ที. เอาได้ราคาที่ดีที่สุด เข้าไปตั้งแต่เต็นท์แรก จนเป็น10 เต็นท์ สรุปก็ต้องมาขายเต็นท์แรก มันก็เป็น เสน่ห์ อย่างหนึ่งของการขายรถ เมื่อสิปกว่าปีที่แล้ว
สมัยปัจจุบัน มันก็ยังพอมีบ้างที่เป็แบบนั้น แต่ตอนนี้ มาสนใจระบบการซื้อขาย ผ่านทาง internet กันมากขึ้น ตามยุคสมัย ที่เปลี่ยนไป
ด้วยเหตุนี้แหละครับ จึงทำให้มีช่องว่างแฝงตัวของผู้ไม่ตั้งใจดี เข้ามาหาผลผลประโยชน์ เพราะเมื่อก่อน เวาลาจะขายรถ ก็วิ่งไปตีราคาที่หน้าเต็นท์ อย่างน้อยก็มีที่อยู่ เป็นหลักแหล่ง มีตัวตนจริง. เกิดปัญหาอะไรขึ้นมาก็ตามตัวได้ แต่ตอนนี้ ผู้ชื้อ เจอกับผู้ขายได้เลยครับ เพียงแค่ลงประกาศขายตาม internet ตามเวปที่ใหลงขายกันฟรีๆ เลยครับ ก็จะมีทั้งผู้รับซื้อรถมือสอง และผู้ใช้รถ จริง โทรเข้ามาติดต่อ ขอซื้อรถ เข้ามาดูรถถึงที่ ตกลงจบราคา ซื้อขายโอนกัน เป็นเรื่องปกติ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรก็แล้วแต่ตกลงกัน. ถ้าซื้อขายกันด้วยเงินสด ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีปัญหาครับ. แต่ถ้ารถ ยังคงติดค้างไฟแนนซ์ อยู่ แล้วต้องเคลีย์ทางไฟแนนซ์ให้หมด ใจความสำคัญนี้ครับ ที่เราจะมาคุยกันในเรื่องนี้
บางครั้ง อะไรที่ดูดีกว่าความเป็นจริงมันมักจะไม่จริง เสมอไปครับ คำผูดนี้ยังใช้ได้อยู่ครับ ธรรมชาติของคนเราครับ เวลาที่เราจะขายของ คนซื้อก็อยากได้ของราคาถูก ส่วนคนขายก้อยากได้ราคาดี ดี แต่ถ้าหาความลงตัวกันได้ ก็มีการซื้อขายกันเกิดขึ้น ตรงข้าม ถ้าถือธงกันคนละฝั่ง โดยที่ไม่มีตรงกลาง ก็ไม่จบกัน
สำหรับผู้ที่ขายรถ ที่ยังคงค้างไฟแนนซ์ แล้วมีผู้รับซื้อรถมือสองสนใจ รถของทางผู้ขาย โดยที่ แจ้งราคารับซื้อ ดีกว่า คนอื่น
เช่น เราตั้ง ราคาขาย อยู่ที่ 400,000 บาท โดยทางเราติดไฟแนนซ์อยู่ 300,000 บาท มีคนสนใจจำนวนมาก เสนอซื้อเราในราคา 350,000 บาท
แต่ทางเรายังไม่ขาย ก็อยากได้ราคาที่ดีกว่านั้น. แต่มีอีกรายนำเสนอ จะซื้อในราคา 380,000 แต่มีข้อแม้ว่า ยังไม่ปิดบัญชีไฟแนนซ์ แล้วค่อยไปปิดไฟแนนซ์ ภายหลัง ทางเราเห็นได้ราคามากกว่า ก็เลยตกลงขายให้ โดยที่ทางผู้รับซื้อรถมือสองจ่ายเงินค่าส่วนต่าง มา 80,000 หมื่นบาท ส่วน ที่เหลือจะปิดบัญชี ให้ต่อจากนั้นโดย สัญญาว่า จะปิดบัญชี หลังจากนี้ ไม่เกิน 1-2 สองเดือน. ก็เลยตกลง แต่เวาลาผ่านไป ประมาณ 2 เดือน มีจดหมายจากทางไฟแนนซ์ ส่งมาว่าค้างชำระ 2 เดือนแล้วให้รีบมาชำระ ยอดค่าค้างชำระ ก็เลยติดต่อกับไปยังผู้รับซื้อรถมือสอง (http://carloveme.com/) ปรากฏ ว่าไม่สามารถติดต่อได้
ทั้งที่เมื่อตอน ที่ก่อน จะสรุป ดูท่าทางน่าเชื่อถือ เป็นอย่างมาก พูดดีทุกอย่าง เลยต้อง แจ้งความ เป็นเรื่อง ขึ้นโรงพัก ระทมใจ แล้ว ยังต้องเคลียร์ กับทางไฟแนนซ์ ทางเรายังผูกสัญญากันอยู่ เพราะจะเสีย เครดิตบูโร กว่าจะตามตัวและรถกลับมาได้ ต้องใช้เวลา เลยต้อง ผ่อนตัวรถเปล่า ไปด้วย เปลืองเวลา เสียใจ เจ็บใจหลายอย่าง ฉนั้น เราควร รอบครอบมากกว่านี้ครับ เวาลาขายรถที่ยังคงค้างกับ ไฟแนนซ์ ก็ต้องไปเคลียร์. ให้จบกับทาง ไฟแนนซ์ ก่อนแล้วค่อยปล่อยรถ ให้กับทางผู้รับซื้อรถมือสอง คือนัดไปทำสัญญา ซื้อขายกันที่ไฟแนนซ์ ปิดบัญชี แล้ว จ่ายส่วนต่าง แล้วส่งมอบรถครับ อย่างนี้สบายใจทั้งสองฝ่าย ครับ
หรือ อีกกรณี ที่ว่า รับซื้อรถมือสอง แล้วให้ราคาดีกว่าคนอื่น ทั้งที่รองสอบถามกับเจ้าอื่นๆ แล้วราคาทั่วไปก็จะอยู่ราคาใกล้เคียงกัน แต่มี อยู่ หนึ่งที่ให้ราคาดีมาก ราคาสูงกว่ารายอื่น เหลือเกิน โดยแอบอ้างว่ามาจาก เต็นท์ ที่มีซื่อเสียงแถว กาญจนาภิเษก ทางเราก็ไม่ได้ตรวจสอบ มากัน 2-3 คน ขอนัดเข้ามาดูรถ ก็ดูตามปกติ ถามโน่น ถามนี้ เรื่องเอกสาร อย่างนั้น อย่างนี้ แต่พอ ถึงช่วงเวลา ขอทดสอบลองขับรถ. ก็จะขอเอารถเพื่อไป ทดลองขับ ก็ให้ไป ได้โอกาสเลยครับ ไปเลยครับรถ พวกนี้เก่งครับ. หาจังหวะและช่องทางได้เสมอ อย่าปล่อยให้เอารถไปลองโดย
ไม่มีคนของเรานั่งไปด้วยครับ เวลาที่จะขายรถ ทางผู้ขายควรจะมีคน ติดตามมาด้วย อย่ามาคนเดียว. ควรหาสถานที่ ที่ดู.แล้วปลอดภัย คน พลุกพล่าน หน่อย ก็จะดี
สังคมสมัยนี้ต้องระวังครับ สงสัยใว้ก่อน ครับ.ไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย ส่วนที่ผู้รับซื้อรถมือสอง ดี ๆ ก็มีเยอะครับ ถ้าเพื่อน หรือญาติ. ที่เคยขายรถมือสอง รองถามดูก็ได้ว่าขายที่ไหนให้เขา
แนะนำ ก็ จะปลอดภัยขึ้น แต่ถ้าไม่รู้จะหาที่ไหน เข้าไปดูในเน็ทดูก็ได้. มีหลายที่ ที่มีความน่าเชื่อถือ. ค่อยๆ ไตร่ตรอง ดีๆ สอบถาม ความจริงใจต่าง ๆ บางทีเราก็สามารถ รับรู้ได้ครับ