หัวข้อ: ฟีโรโมนและน้ำหอมฟีโรโมนคืออะไร? มีกลไกการปฏิบัติหน้าที่อย่างไร?
เริ่มหัวข้อโดย: JoshuaPowell25 ที่ กรกฎาคม 26, 2017, 01:26:45 pm
ในปี 2002 ได้มีการศึกษาฟีโรโมมนุษย์อีกครั้งโดยการ โดยการนำเสื้อติดเหงื่อของผู้หญิงมาให้เพศตรงข้ามสูดดม ซึ่งผลพบว่ามีการเร่งเร้าและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเพศชายเกิดขึ้น ผลการศึกษานี้ได้ถูกตีพิมพ์ในสื่อออนไลน์ของ Neuroendocrinology
4. Modulator Pheromones ในมนุษย์ฟีโรโมนตัวนี้จะปรับเปลี่ยนการทำงานของร่างกาย เช่น การที่รอบเดือนเลื่อนเวลาหรือไม่ปกติ หรือช่วยปรับให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายจากอาการตึงเครียดของร่างกาย
บทความแปลโดย : Muzii The Gong
วันนี้มีความรู้เรื่องฟีโรโมนและน้ำหอมฟีโรโมนมาเล่าให้ฟังค่ะ
ฟีโรโมน (Pheromones) คือสารประกอบทางเคมีกลุ่มหนึ่ง ที่ผลิตหรือได้มาจากสัตว์ซึ่งจะมีต่อพฤติกรรมและสรีรวิทยาต่อสัตว์อื่นๆที่อยู่ในสปีชีส์เดียวกัน ในขณะที่ฮอร์โมนจะทำงานล้วนๆภายในร่างกายของผู้ผลิตฮอร์โมนนั้นๆ แต่ฟีโรโมนนั้นกลับมีผลกระทบภายนอกกับความประพฤติผู้อื่นแทน ในสัตว์หรือแมลงนั้นฟีโรโมนถูกปล่อยออกมาเพื่อกระตุ้นการสืบสายพันธุ์ หรือใช้ก่อขอบเขตอาณาจักรเป็นต้น
ฟีโรโมนถูกนำมาใส่ในส่วนผสมของน้ำหอม (http://mutyperfume.com)โดยมีหลักฐานตั้งแต่ยุคสมัยอียิปต์และกรีกโบราณ ที่สามารถช่วยกระตุ้นความรู้สึกเพศตรงข้ามได้ และสมัยนี้ก็มีการทำน้ำหอมฟีโรโมนออกมามากมายหลากหลายแบรนด์ทั่วโลก แม้กระทั้งน้ำหอมแบรนด์ชั้นยอดเองก็เริ่มมีการให้ความสนใจกับวัตถุดิบชนิดนี้ โดยบางสูตรโดยเฉพาะน้ำหอมที่มีคอนเซ็ปท์ของความเซ็กซี่ แบรนด์ที่พบว่าใช้วัตถุดิบเหล่านี้เช่น Gucci, Givenchy, Victori Secret ฯลฯ แม้ในประเทศไทยเองก็มีการนำเข้าหัวน้ำหอมและฟีโรโมนมาจากต่างประเทศเพื่อใช้ทำน้ำหอมแบรนด์เป็นของตัวเอง และในประเทศไทยก็มีกระแสความนิยมและยอมรับกับน้ำหอมฟีโรโมนเป็นอย่างมากในช่วงศก. 2555 เป็นต้นมาน้ำหอม
ฟีโรโมนเริ่มได้รับความสนใจและเริ่มมีการศึกษาอย่างจริงจังมากขึ้นในปี 1971 โดย Martha McClintock ได้โฆษณาชวนเชื่อข้อมูลที่ศึกษาว่า ผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในละแวกหรือบริเวณใกล้ๆกันนั้น จะมีรอบเดือนที่ใกล้เคียงกันโดยเธอเชื่อว่านี่เป็นผลมาจากฟีโรโมนมนุษย์ ผลการศึกษาอื่นๆยังชี้ให้เห็นว่าฟีโรโมนในเพศชายส่งผลต่อการตกไข่ของเพศหญิงแม้ว่าจะมีวัตถุอื่นๆที่ร่วมส่งผลด้วย ขณะที่การศึกษาเหล่านี้เปิดประตูการวิจัยให้นักวิจัยท่านอื่นๆ แต่ยังคงมีความเชื่อที่ว่าการศึกษาควรมุ่งในเรื่องของการเหนี่ยวนำหรืออิทธิพลทางด้านจิตในและพฤติกรรมของมนุษย์มากกว่า
2. Signaler Pheromones เกี่ยวข้องกับการจดจำกลิ่นพันธุกรรม เช่น กระตุ้นให้เพศแม่จดทบทวนกลิ่นของทารกในสัตว์
3. Primer Pheromones เป็นฟีโรโมนที่มีการตอบสนองแบบช้า ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับรอบเดือนของเพศสตรี และการตั้งครรภ์
1. Releaser Pheromones เกี่ยวข้องกับแรงดึงดูดทางเพศของเพศตรงข้ามซึ่งฟีโรโมนชนิดนี้จะกระตุ้นการตอบสนองโดยทันที
ทฤษฎีหนึ่งบ่งชี้ว่าอิทธิพลของฟีโรโมนมนุษย์เป็นสิ่งเดียวกับทฤษฎีจิตวิทยาทางสังคม เช่นฟีโรโมนบางอย่างที่ผลิตในหมู่ประชากรทำให้รู้สึกเหมือนได้รับการยอมรับจากกลุ่ม เมื่อบุคคลถูกยอมรับจากกลุ่มแล้วก็จะผลิตฮอร์โมนที่เชื่อมการยอมรับออกมาต่อๆไป
ในขณะที่มีการศึกษาและเอกสารมากมายเกี่ยวกับฟีโรโมนในสัตว์และแมลง แต่การศึกษาหรือการลองทำฟีโรโมนในมนุษย์กลับยังไม่สามารถสรุปได้และยังมีข้อจำกัดอีกหลายๆประการ การขาดข้อยืนยันทางวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนไม่ได้หักล้างทฤษฎีฟีโรโมนมนุษย์ หรือว่าไม่ยอมรับว่าไม่มีฟีโรโมนมนุษย์ไปเลยซะมีเดียว นักวิทยาศาสตร์ชาว German ช่วงปีค.ศ. 1800 แสดงหลักฐานการมีตัวตนของฟีโรโมนตัวแรกของมนุษย์ซึ่งพวกเค้าเรียกมันว่า anthropines โดยพบว่ามีสารคัดหลั่งที่ออกมาจากผิวหนังและรูขุมขน ซึ่งมีผลต่อพฤติกรรมระหว่างเพศของมนุษย์และแบ่งแยกประเภทของฟีโรโมนออกเป็น 4 ประเภท