ชมรมเจ้ามือหวย

หมวดหมู่ทั่วไป => สันทนาการและสัพเพเหระ => ข้อความที่เริ่มโดย: JoshuaPowell25 ที่ สิงหาคม 16, 2017, 06:03:08 pm



Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2009, Simple Machines
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวด 16 กรกฎาคม 2565 รางวัลที่ 1 620405 รางวัล3ตัวหน้า 159 834 รางวัล3 ตัวท้าย 279 061 รางวัลเลขท้าย 2ตัว 53




เว็บโปรแกรมเจ้ามือหวย



ทำงานแบบมีหลักการ ไม่กล้าจนเกินตัว ไม่กลัวจนเกินเหตุ
ปณิธานของชมรมเจ้ามือหวย
ทางชมรมเจ้ามือหวย หวังแค่เพียงเพื่อนๆ อยู่กันแบบเป็นพี่เป็นน้อง จริงใจ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ร่วมมือกันในการแบ่งปันข้อมูล มีอะไรดีๆ ก็นำเสนอแก่เพื่อนสมาชิก เพื่อเป็นแนวทางในการทำงาน
หรือระวังป้องกันให้ชาวชมรมได้อยู่ในวงการตลอดไปนานเท่านาน
ขอบคุณจากใจจริง
nongnai




หัวข้อ: เซลล์เม็ดเลือดขาว cd4 กับแบบแผนการแพทย์แผนปัจจุบันในงานรักษาคนไข้โรคเอดส์
เริ่มหัวข้อโดย: JoshuaPowell25 ที่ สิงหาคม 16, 2017, 06:03:08 pm
แต่ถ้าเล่าถึงชื่อย่อ cd4 อาจจะไม่รู้ว่าคืออะไร ขอนำเสนอง่ายๆ ครับว่า cd4 บางทีถูกเรียกว่า T-cells หรือ T-helper cells เป็นเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งจัดระบบภูมิต้านทานของร่างกายต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส ซึ่งเจ้าเซล์เม็ดเลือดชนิดนี้มีจุดสำคัญต่อการวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวี ด้วยเพราะเป็นเซลล์ที่เชี้อเอชไอวีเข้าไปทำร้ายทำลาย

ธรรมดาร่างกายจะผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวไม่กี่ล้านเซลล์ แต่เจ้าไวรัสเอชไอวี อาจแบ่งตัวได้มากถึงวันละหมื่นล้านตัว นับว่าเป็นตัวเลขที่เหลื่อมล้ำกันอย่างชัดเจนจนน่าตื่นเต้นตกใจเลยใช่มั้ยขอรับ

ค่าโดยทั่วไปแล้วเม็ดเลือดขาวหรือ WBC คือ ประมาณ 5000-10000 cells/cu.mm.ส่วนค่า % Lymp จะไม่เหมือนกัน บางท่านสูง บางท่านต่ำ ค่าปกติธรรมดาของ % Lymp อยู่ในช่วงประมาณ 19-48% เพราะฉะนั้นจึงต้องดูค่าทั้ง 3 อย่างเเละนำไปใส่สมการสูตรคำนวณออกมา

ต่อนี้ไปเรามาดูกันว่านายแพทย์มีวิธีการวินิจจัยและจ่ายยาต้านไวรัสให้ผู้ป่วย โดยดูจากปริมาณเม็ดเลือดขาวหรือ cd4 ยังไง

ประจุบันเราใช้จำนวนรวมเซลล์ cd4 (http://gelaids.com/)-T lymphocyte และปริมาณเชื้อ viral load หรือ HIV RNA มาเป็นตัวบอกระยะและพยากรณ์ของโรค อาทิเช่น ผู้ที่มีผลรวมเซลล์เม็ดเลือดขาวT lymphocyte มากกว่า 500 cells/mm3 จะมีโอกาสเสี่ยงต่ำในการเกิดโรคเอดส์และความเจ็บไข้แทรกซ้อนอื่นใน 3 ปี การเจาะตรวจ T-cells ควรจะเจาะทุก 3-6 เดือนขึ้นกับสภาพของคนป่วย ผู้ที่เจาะได้เซลล์จำนวนรวมน้อยก็ต้องเจาะถี่ขึ้น ส่วนผู้ที่มีเซลล์มากก็เจาะทุก 6 เดือนcd4

แม้ว่าถ้าคุณไม่มีเชื้อ เอชไอวี แต่ก็ยังมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณ T-cells เช่น T-cells ของเพศหญิงจะขึ้นและลงในช่วงที่มีรอบเดือน ยาคุมชนิดเม็ดจะทำให้ปริมาณ T-cells ถดถอยได้ หรือในบางขณะที่ร่างกายพักผ่อน T-cells จะลดระดับลงและลดลงได้มากถึง 40% เป็นอาทิ

ยาต้านไวรัสเอดส์จำนวนมากใช้ได้ผลดี แต่ก็ยังอาจพบอุปสรรคของการใช้ยาบางชนิด ได้แก่ ตัวปัญหาจากผลข้างเคียง

ผู้ที่ติดเชื้อที่ระดับเซลล์เม็ดเลือดขาวร่อยหรออย่างเร็วในช่วงติดเชื้อใหม่และไม่สามารถรักษาระดับเซลล์เม็ดเลือดขาวให้คงที่ได้ มีแนวโน้มที่จะมีอาการของโรคเอดส์เร็วกว่าปกติขอรับ เมื่อใดที่การตรวจวัดระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวอยู่ที่ 200-500 นั่นแสดงว่าระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ถูกทำลายแล้ว

ในล่าสุดวิวัฒนาการทางการแพทย์ทันสมัยก้าวหน้าไปมาก ทำให้การวินิจฉัยโรคต่างๆ สามารถทำได้อย่างปัจจุบันทันด่วน และช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตหรือพิการของผู้ป่วยได้มากมาย

ด้วยเหตุนั้นค่าที่เป็น Absolute cd4 จึงเป็นค่าที่นำไปเป็นมาตรฐานการรับยาต้านไวรัส ถ้าค่า cd4 ต่ำกว่า 200 มา ก็ไปพบคุณหมอเพื่อขอรับประทานยาต้านไวรัสได้เลย อย่างไรก็ดีถ้ายังสูงมากกว่า 200 ก็อย่าเพิ่งทานยาต้าน ให้เยียวยารักษาตามอาการเเทรกซ้อนด้วยยาเฉพาะโรคอื่นๆ ไปก่อนครับ ซึ่งยาต้านไวรัสเอดส์หรือบางท่านเรียกสั้นๆ ว่า
ยาต้าน
 คำศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า
เออาร์วี
 (ARV) ย่อมาจาก antiretroviral

การถอยอย่างมากมายของเซลล์เม็ดเลือดขาวจะเป็นเครื่องแสดงของอาการที่จะเกิดขึ้นก่อน 1 ปี ก่อนที่จะวินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็นโรคเอดส์อย่างสมบูรณ์แบบ การปรนนิบัติร่างกายที่ดีจึงควรเข้ารับการตรวจทานวัดระดับเซลล์เม็ดเลือดขาว (cd4) อย่างบ่อย เสนาะระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวมีความสำคัญอย่างมากที่จะใช้เป็นแนวทางในการเยียวยารักษา หรือการให้ยาต้านไวรัสแก่คนป่วยเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนบางจำพวก เช่น ระดับ T-cells น้อยกว่า 200 แพทย์จะให้การดูแลรักษาโรคปอดอักเสบ ฯลฯ

ซึ่งเซลล์เม็ดเลือดขาวเองก็เป็นพารามิเตอร์ต้นแบบที่หมอใช้ในการวินิจฉัยโรคในดั้งเดิม

โดยระดับปกติธรรมดาของ T-cells ในคนที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวี จะอยู่ระหว่าง 400 – 1600 ต่อเลือด 1 ลบ.มม. และ T-cells ของผู้หญิงที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวี นั้นจะมีความโน้มเอียงที่สูงกว่าเล็กน้อย คือ 500 – 1600.

ในยุคปัจจุบันมียาต้านไวรัสเอดส์ปริมาณมาก ออกฤทธิ์ระงับการขยายพันธุ์ทำให้เชื้อไวรัสเอดส์บรรเทาเบาบางได้ และช่วยปกป้องรักษาไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาวตระกูล T-cell

เซลล์ตัวนี้มีความสำคัญตรงที่ทำภารกิจเป็นเหมือนตัวบังคับบัญชาระบบภูมิต้านทานทั้งปวง พอเซลล์นี้ถูกทำลายไประบบภูมิคุ้มกันก็ทำงานผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถพิทักษ์ร่างกายจากเชื้อโรคต่างๆ ได้ เมื่อร่างกายติดไวรัสเหล่านี้เข้าพร้อมกันๆ กันก็จะเกิดเป็นโรคเอดส์ท้ายที่สุด การตรวจสอบหาจำนวนของ T-cells จึงเป็นตัวช่วยบ่งชี้ว่าระบบภูมิต้านทานของร่างกายยังทำงานดีอยู่หรือไม่ และเชื้อเอชไอวีทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแย่ไปจนถึงเวลาที่ต้องรับยาต้านไวรัสหรือยัง