![](http://www.chomromjaomueshuay.com/uploaded/Line ID.png)
หัวข้อ: ไปทำบุญเทสุวรรณหล่อพระในเทศเวลาวันสำคัญลู่พระพุทธศาสนาที่อยู่ในพื่นที่จังหวัดเมืองใหญ่เทพยดามหา
เริ่มหัวข้อโดย: JulianJackson18 ที่ กันยายน 13, 2017, 09:23:34 am
แต่เดิมนั้นศาสนาพุทธศาสนาไม่มีรูปร่างคารวะแต่อย่างใด ศาสนาพราหมณ์ หรือไม่ ชาวฮินดู ซึ่งมีมาก่อนพระศาสนาพุทธ ก็ไม่มีรูปยำเกรงเป็นเทวรูปเช่นขัดขวาง หลังจากพระพระพุทธเจ้าเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ผู้แห่งเลื่อมใสในพุทธพระศาสนา อยากจะมีสิ่งของที่จะทำแจกคิดถึงลุ ใช่ไหมเป็นสัญญลักษณ์ขององค์ศาสดา เพื่อที่จะบอกให้ทราบกล่าวเล่าขาน เรื่องราวขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่รูปทรงเรียนค้นคว้าหาทางดับทุกข์ พร้อมกับทรงบ่งแนะสอนสั่งผู้คน ถึงการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุถึงความเป็นอยู่ ถิ่นก่อให้เกิดความผาสุกในหมวดหมู่มวลมนุษย์พร้อมกับสิ่งมีชีพในโลกคราวแรกนั้นชาวพุทธก็ได้มาแม้กระนั้นนำเอาสิ่งของของอันได้มามีอายุ ดิน น้ำกิน และกิ่ง ก้าน ใบโพ จากละแวกสังเวชนียสถาน 4 ที่ หมายถึง สถานแหล่งประสูติ (ลุมพินีวัน),ตรัสทราบ (พุทธคยา), ปฐมเทศนา (สารนาถ) และปรินิพพาน (กุสินารา) เก็บมาวางเป็นที่ระลึกบูชาท่านพระพุทธเจ้าล่วงมาถึงในยุคพระเจ้านายอโศกอติราช ศาสนาพุทธศาสนูปถัมภกถิ่นภิญโญโตพระองค์หนึ่ง ครั้น 2,200 ปีก่อน หรือปฤษฎางค์พลัดพรากการดับหมวดสิ่งของพระพระพุทธเจ้าเจ้ามา 300 ปี พระเจ้าโศกอติราช ได้ทรงส่งสมณะทูต จำนวน 500 รูป ไปเผยแบพระพุทธศาสนายังประเทศตักกศิลา แคว้นคันธาราฐ แล้วจึงมีชื่อน้ำเสียงในฐานะหมายความว่ามณฑลที่ประสิทธิประสาทความรู้การต่าง ๆ คณนาว่า
เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกทางพระพุทธศาสนา
แม้กระนั้นก็ยังไม่มีรูปเคารพแทนพระพุทธเจ้าแหล่งหมายความว่ารูปคนพระพุทธรูป หรือ รูปเคารพแทนพระพระพุทธเจ้าเจ้า ในตำนานเรื่องพระใจกลางจันทน์ได้รับพรรณาเรื่องพระศาสนาพุทธภาพถ่ายองค์แรกไว้ว่า ครั้งที่พระพุทธเทพารักษ์เสด็จจำพรรษาสำหรับโปรดศาสนาพุทธมารดา ณ สวรรค์ชั้นตรัยตรึงศ์นั้น พระเทพารักษ์ปเสนทิโกศล มหากษัตริย์แห่งเมืองสาพรตถี ทรงรำลึกลุพระพระพุทธเจ้าอวัยวะหมายความว่าวิธีมาก จึงพอใจฯให้ช่างหาไม้แก่นจันทน์หอมแห่งดีที่สุด มาแกะกลอนหมายถึงพระพุทธรูปอันงดงาม มีพุทธประเภทคล้ายพระพระพุทธองค์ จากนั้นเชิญไปประดิษฐานยังพระราชมณเฑียรเมื่อพระบรมศาสดาเสด็จกลับจากตรัยตรึงศ์ และเสด็จมายังเมืองสาวัตถี พระเจ้าปตะกั่วแดงทิโกศลแล้วจึงทูลอาราธนาสละเสด็จทอดพระเนตรพระศาสนาพุทธรูปองค์ดังกล่าว ครั้นเมื่อพระพุทธองค์เสด็จไปถึง พระศาสนาพุทธรูปตัวไม้แก่นจันทน์ได้เคลื่อนอวัยวะลูกจากพระแท่นที่เข้าประจำที่ เพื่ออุทิศความเคารพพระศาสดา ครานั้นพระพุทธองค์จึงทรงยกพระหัตถ์ซ้ายขึ้นห้าม พระไม้ศูนย์กลางจันทน์จึงกลับไปประทับอีกต่างหากพระแท่นที่แต่เดิม พระเจ้านายปเสนทิโกศลเห็นเยี่ยงนั้นก็ยิบปรากฏความเลื่อมใสศรัทธา แต่ตำนานนั้นถือว่าร้ายยังไม่สามารถหาแม่แบบฐานได้ส่วนการสร้างพระศาสนาพุทธรูปแท้ๆ ตรงนั้นเริ่มมีการสร้างขึ้นมาตั้งอย่างไรก็ดีระหว่าง พ.ศ. 500 ลุ 550 เมื่อชาวมาตงค์ก ที่ชาวชมพูทวีป (อินเดียโบราณ) เรียกชาวต่างแขวงว่า
โยนา
หรือ
โยนก
โดยพระเจ้าเมนันเดอร์แหล่ง 1 หรือ พระยามิลินท์ กษัตริย์เชื้อสายกรีก ยกทัพกรีกเข้าไปมาครอบครองแคว้นคันธาราฐ (สมัยนี้เป็นก้อนดินแดนของอัฟกานิสถาน) จากนั้นพระองค์ก็แบอาณามณฑลไปตลอดบริเวณด้านตะวันตกเฉลียงเหนือของชมพูทวีป และสร้างเมืองหลวงเป็นที่ประทับตรา ณ เมืองสากล ส่วนหลังจากถิ่นได้พบพระบรรพฃิตเอ็งเอ็ดนามว่า นาคตะกั่วแดง จึงมีเรื่องราวแห่งการแต่งตั้งคำถามเครื่องใช้พระเจ้ามิลินท์แก่พระนาคเสน จนทำพระเจ้านายมิลินท์ ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา (คำซักถามคำตอบปุจฉาวิสัชนา ซึ่งถูกเขียนบันทึกคือหนังสือพร้อมทั้งถ่ายความหมายหมายความว่าคำพูดต่าง ๆ แหล่งมีชื่อเสียงมาก เรื่องนี้ก็หมายความว่า มิลินทปัญหาได้มามีการสร้างสถาปัตย์ พร้อมด้วยประติมากรรมทางพุทธศาสนามากมายในแคว้นคันน้ำฐ ซึ่งการสร้าง หล่อพระ
พุทธภาพถ่ายแม่พิมพ์ประเทศไทยจ หล่อพระ
พระพุทธเจ้ารูปนั้นมีลักษณะต่างๆ ยินยอมพุทธประวัติ (ปางพระศาสนาพุทธรูปถ่าย)พระพุทธภาพถ่ายรูปแรกจึงเกิดขึ้นในสมัยของพระเทวดามิลินท์ หรือเมนันเดอร์แหล่ง 1 ชาวกรีกที่มาครอบครองแผ่นดินคันธาราฐ จนถึงประมาณพุทธศตวรรษที่ 6 ใช่ไหม 2,000 ปีที่แล้วนั่นเอง พระพุทธรูปถ่ายแห่งมีขึ้นขึ้นครั้งแรกจึงเรียกรูปแบบเครื่องใช้พระพระพุทธรูปนี้นินทา แบบคันธาราฐ โดยถ่ายแม่พิมพ์อย่างเทวรูปแห่งพวกชาวกรีกนับจับขัดขวางในยุโรปมาสร้าง พระพุทธรูปแบบคันธาราฐจึงมีใบหน้าเหมือนผลฝรั่งชาวกรีก กาสาวพัสตร์ก็หมายถึงริ้วยังกับเครื่องใส่ห่มเครื่องใช้เทวรูปมาตงค์ก พร้อมด้วยต่อมาในภายหลัง ราวศาสนาพุทธศตพรรษ ที่ 4-12 มีแบบอย่างนิยมสร้างพระพุทธรูปเป็นขนาดพอดีๆ (พระเครื่อง) บรรจุเก็บในพุทธเจดีย์ การปั้นหล่อพระ (http://boonlucksa.com/) หล่อพระ