ช่วงนี้สถาบันอุดมศึกษาต่างๆพากันมีงานพิธีรับปริญญามากมายมากๆ เรียกได้ว่าเป็นงานเทศกาลรับปริญญาเลยก็ว่าได้ นอกเหนือจากผู้สำเร็จการศึกษาที่ตื่นเต้นกับงานพิธีรับปริญญาของตัวเองแล้วคนที่ตื่นเต้นไม่แพ้กันนั่นก็คือกลุ่มบรรดาผองเพื่อนพ้องของบัณฑิตนั่นเอง ไม่ว่าจะหาชุดสวยงามตั้งเนื้อตัวตัวไปงานหรือกระทั่งของรางวัลที่จะให้ผู้สำเร็จการศึกษาก็ตาม ก็ของให้มีมากหลายชนิดทั้งแบบจัดเตรียมมาเองหรือที่ซื้อขายหน้างานเรียกว่าเลือกกันไม่ถูกเลยเชียวทั้งสนนราคาถูกและสนนราคาแพงคละเคล้ากันไปสวยๆทั้งนั้น แต่ในนาทีนี้ของฝากกิ๊บเก๋ที่ฮิตสุดๆ เรียกได้ว่าขายกันแทบจะทุกร้านขายของเลยก็ว่าได้คงหนีไม่พ้น '
ลูกโป่ง ลูกโป่ง
คือสิ่งของที่ทำมาจากยาง น้ำยาง ผ้าในล่อน หรือไม่พอลีคลอโรพรีน นำมาทำเป็นรูปร่างต่างๆที่สามารถยืดหยุ่นและพองตัวโดย โดยใส่แก๊สต่างๆเข้าไป (ถ้าเราเป่าเองด้วยปากก็จะเป็นการใส่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปจากลมหายใจออกของเรานั่นเอง) ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยก่อนโดยการทดลองทางวิทยาศาสตร์ คนที่สร้างสรรค์ได้สำเร็จเป็นคนแรกคือ ไมเคิล ฟาราเดย์ นักวิทยาศาสตร์โด่งดังจากประเทศอังกฤษ แต่ว่าก่อนหน้านี้ กาลิเลโอ ก็เคยทดสอบประดิษฐ์เช่นกัน โดยเอากระเพาะหมู หรือกระเพาะปัสสาวะของสิ่งมีชีวิตที่แห้งแล้วมาทำการทดลอง มีวัตถุประสงค์ไว้เพื่อประดับตกแต่งสถานที่และใช้ในงานเทศกาลต่างๆ สำหรับเด็กๆ ก็จะให้คุณประโยชน์ในด้านความเพลิดเพลิน และการช่วยสร้างทักษะในการคิดนึกฝัน ขึ้นอยู่กับการนำมาบูรณาการและคำแนะนำของแต่ละครอบครัว จริงๆแต่ก่อนนั้น ลูกโป่ง
อัดแก๊ส' แบบสวยๆงามๆ มีทั้งอันเล็กอันใหญ่ แบบอลังการงานสร้างก็มี ถือว่าเอามาประดับบารมีของบัณฑิตเลยก็ว่าได้ แต่ราคานี่แพงใช่เล่น ลูกน้อยๆมูลค่าก็ไม่ได้น้อยตามลูกเลย ไหนๆเห็นว่าช่วงนี้ป๊อปปูล่ากันจัง เราจึงขอเกาะกระแสไปด้วย รู้หรือเปล่าว่าจะลูกบอลลูนสีๆเนี่ย มีสตอรี่ไม่น้อยเลยนะ ใครๆหลายคนต้องเคยสัมผัสกับมันแน่ๆ ยิ่งช่วงระยะเวลาเด็กๆเชื่อว่าเด็กจำนวนมากเพลิดเพลินไปกับของเล่นชิ้นนี้ไม่ใช่น้อย วันนี้เราจะพามาย้อนกลับมาไปรู้จัก ลูกโป่ง
นั้นถือว่าเป็นของเล่นไฮโซเลยก็ว่าได้ในช่วงระยะเวลาที่ประเทศไทยนำเข้ามาแรกๆ ช่วงยุคสมัยรัชกาลที่5 เป็นช่วงที่ไทยเริ่มมีความสัมพันธ์อันดีงามกับยุโรปจึงเริ่มรับประเพณีนิยมรวมถึงมีการค้าขายกันทำให้ ลูกโป่ง
เข้ามาแพร่ขยายในสมัยนั้น โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานฉลองเทศกาลต่างๆ ใช้เพื่อประดับตกแต่งสถานที่ รวมถึงใช้ในพิธีเปิดงาน แขวงป้ายต่างๆ แต่เนื่องจากเป็นสินค้านำเข้าทำให้มีราคาค่อนข้างแพง เรียกได้ว่าต้องมีสถานะที่ดีจึงจะสามารถซื้อมาเล่นได้ แต่ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้อย่างง่ายได้ เพราะไทยมีการผลิตและจำหน่ายกันอย่างแพร่สะพัดไม่ต้องนำเข้าอีกแล้ว เมื่อทุนลด ราคาก็ลด จึงกลายเป็นของเล่นที่วัยเด็กเล็กแทบจะทุกคนเคยผ่านกันมาแล้วทั้งนั้น เนื่องจากหาซื้อง่ายและสนนราคาก็ถูกอีกด้วย ลูกโป่ง
ทุกวันนี้เจ้าของเล่นบอลลูนหลากสีนี้มีมากมายประเภทมากๆ มูลค่าก็แตกต่างกันไป รวมถึงความปลอดภัยในการเล่นด้วยก็เช่นกัน ผู้ปกครองที่จะใช้ของเล่นชนิดนี้มาเป็นเพื่อนเล่นกับบุตรหลานจึงควรที่จะทำความรู้จักมักคุ้นกับประเภทของมันด้วยว่าแต่ละชนิดเหมาะสมกับการเล่นแบบไหน เหมาะกับลูกของท่านหรือไม่ และมีความปลอดภัยหรือเปล่า ลูกโป่ง
1. ลูกโป่ง
ในอดีตกัน ลูกโป่ง
ลูกโป่ง
ยาง ทำมาจากยาง น้ำยาง เป็นแบบออริจินัลแรกเริ่มเลยทีเดียว ใช้การเป่าลมหรืออัดแก๊สเข้าไปเพื่อให้ลอยตัวได้ ถ้าแบบเป่าลมด้วยปากมักจะไม่ร้ายแรง ซื้อหาได้จากการขายเป็นถุงๆให้เด็กๆซื้อไปเป่าลมด้วยปากกันเอาเอง แต่ถ้าว่าเป็นแบบสำเร็จรูปส่วนใหญ่มักจะลอยในอากาศได้ โดยใช้การอัดแก๊สเข้าไป สามารถอัดแก๊สได้ 2 ชนิดคือ ไฮโดรเจนและฮีเลียม ถ้าไฮโดรเจนจะค่อนข้างจะอันตราย เนื่องจากเป็นก๊าซไวไฟ สามารถติดไฟและลามเป็นเชื้อเพลิงได้ง่าย ก่อให้เกิดอันตรายได้ และยังสามารถซึมออกจากผิวยางได้ด้วย แต่จะมีราคาไม่แพงมาก ลูกโป่ง
ส่วนฮีเลียมนั้นจะไม่เป็นอันตรายกว่าเนื่องจากเป็นก๊าซเฉื่อย ไม่ไวไฟ แต่มีราคาค่อนข้างแพง พวกพ่อค้าผู้ขายจึงนิยมไฮโดรเจนมากกว่าเพื่อประหยัดต้นทุน สมัยปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคกำหนดให้เจ้าบอลลูนอัดแก๊สไฮโดรเจนกลายเป็นของซื้อของขายที่ควบคุมฉลาก ผู้จำหน่ายต้องติดคำเตือนเกี่ยวกับการระมัดระวังเรื่องประกายไฟและความร้อน เพื่อป้องกันการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กๆที่มาซื้อไปเล่นเพราะว่าเด็กๆรวมถึงผู้ใหญ่บางคนไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำว่าการที่มันลอยได้นั้นเกิดจากการใช้ก๊าซประเภทได้ แล้วก๊าซชนิดนี้ส่งผลอย่างไร ดังนั้นจึงการติดป้ายตักเตือนเอาไว้จะช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ไม่มากก็น้อย แต่ถึงอย่างใดก็ขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณของพ่อค้าคนขายของด้ ลูกโป่ง