พูดถึงเรื่องการใช้ไฟฟ้าในบ้านแล้ว ถ้าคุณเป็นคนที่ดูแลรักษาของเป็นประจำ และรู้จักซ่อมบำรุงชิ้นส่วนต่างๆ ที่เก่า
เสียหาย อุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านเหล่านั้นก็จะอำนวยความสะดวกให้คุณได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าหากคุณปล่อยปละละเลย ใช้อย่างเดียว ไม่เคยดูแลรักษา สิ่งของเหล่านั้นก็อาจจะทำให้คุณบาดเจ็บ หรือที่เลวร้ายที่สุดคืออาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
วันนี้ KDPมีบทความดีๆ จากทางการไฟฟ้านครหลวงมาฝากเพื่อนๆ ทุกคนครับ เพราะเชื่อว่าท่านที่กำลังอ่านบทความอยู่ตอนนี้ เวสน์
ก็น่าจะมีไฟฟ้าใช้กันทุกบ้าน โดยบทความนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับ วิธีดูแลรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งอุปกรณ์ที่ว่านี้ เราไม่ได้หมายถึงหมายความว่าเครื่องใช้ไฟฟ้านะครับ แต่ว่าเป็นอุปกรณ์จำพวก สายไฟฟ้า, เต้ารับ-เต้าเสียบ, สวิตช์ตัดตอนชนิดคัตเอาต์, และ เบรกเกอร์ นั่นเอง
เชื่อว่าหลังจากอ่านบทความนี้ เพื่อนๆ จะทราบถึงวิธีดูแลรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างเป็นธรรม
แน่นอน ว่าแล้วก็ไปติดตามกันเลยครับ
สายไฟฟ้า
สายไฟฟ้า เป็น
อุปกรณ์ไฟฟ้าที่สำคัญ และจำเป็นสำหรับทุกบ้าน โดยเป็นตัวกลางในการนำกระแสไฟฟ้ามาสู่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกในบ้านของคุณ สิ่งที่เราควรคำนึงถึงเกี่ยวกับการใช้งานสายไฟฟ้าในบ้านมีดังนี้
สายไฟฟ้าเก่าหรือหมดอายุใช้งาน จะสังเกตได้จากฉนวน ซึ่งจะแตกหรือแห้งกรอบบวม หากพบเจอควรเปลี่ยนหรือซ่อมแทรมโดยผู้ชำนาญ
- จุดต่อสายไฟ การเข้าสายต้องขันให้แน่น และมีการพันฉนวนให้ละม่อม
- ขนาดของสายไฟฟ้า ควรใช้ขนาดของสายให้เหมาะสมกับส่วนแบ่ง
กระแสที่ไหลในสาย หรือให้เหมาะสมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในวงจรนั้นๆ
- สายไฟฟ้าต้องไม่เดินอยู่ใกล้แหล่งความร้อน สารเคมี หรือถูกของหนักทับ เพราะ
จะทำให้ฉนวนชำรุดได้ง่าย ซึ่งจะก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นได้
- สายไฟไม่ควรพาดบนโครงเหล็ก รั้วเหล็ก ราวเหล็ก หรือส่วนที่เป็นโลหะ ถ้าหลีก
ไม่ได้ควรเดินสายไฟฟ้าโดยใช้พุกประกบหรือร้อยท่อให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่วลงบนโครงโลหะ
เต้ารับ-เต้าเสียบ
อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สำคัญ และควรดูแลอย่างใกล้ชิดมากเต็มที่
อีกอย่างก็คือ เต้ารับ-เต้าเสียบ ครับ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่เราต้องสัมผัสโดยตรงขณะใช้งาน และถ้าหากเราใช้งานเต้ารับที่ชำรุด ก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดไฟฟ้าดูด หรือลัดวงจร และเป็นอันตรายได้ ดังนั้นเราควรตรวจเช็คเต้ารับ-เต้าเสียบดังนี้
- เต้ารับ เต้าเสียบที่ดี และปลอดภัย ต้องไม่แตกร้าว และไม่มีรอยไหม้
การต่อสายที่เต้ารับและเต้าเสียบ ต้องต่อให้ล้มหลาม
และเลือกใช้ขนาดสายไฟให้ถูกต้อง ยอมรูปร่าง
การใช้งาน
-เต้าเสียบ เมื่อเสียบใช้งานกับเต้ารับแล้ว จะต้องแน่น ไม่หลวม หรือโยกไปโยกมา
-เต้ารับ ต้องติดตั้งในที่แห้ง ไม่เปียกชื้นเท่านั้น และควรติดให้พ้นมือเด็ก
เล็กที่อาจเล่นถึงได้
สวิตช์ตัดตอนชนิดคัตเอาต์ (Cut Out)
สวิตช์ตัดตอนชนิดคัตเอาต์ หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างนึงว่า สะพานไฟ คืออุปกรณ์ที่ใช้อภิบาล
ไฟฟ้าลัดวงจร ที่เกิดจากการใช้ไฟฟ้ามากเกินไป โดยมีหน้าที่ในการตัดและต่อกระแสไฟฟ้า ด้วยการโยกคัตเอาต์ขึ้น (ต่อวงจร) และโยกคัตเอาต์ลง (ตัดวงจร) ภายในตัวคัตเอาต์จะมีฟิวส์ ซึ่งเมื่อมีการใช้ไฟฟ้าเกิดขนาด เจ้าฟิวส์นี้เองก็จะหลอมละลาย และตัดวงจรไฟฟ้าลง ช่วยป้องกันอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากการถูกทำลายจากไฟฟ้าที่เกินขนาดนั่นเอง โดยเราจะมีวิธีดูแลรักษาสะพานไฟได้ดังนี้
-ตัวคัตเอาต์และฝาครอบต้องไม่แตก และมีสภาพพร้อมใช้งาน
-ใส่ฟิวส์ให้ถูกขนาดและมีฝาครอบปิดให้มิดชิด (ฟิวส์ที่ใช้ต้องเป็นแบบก้ามปู)
-เตือน
ใช้วัสดุอื่นใส่แทนฟิวส์ เพราะอาจ
ทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรได้
-ขั้วต่อสายที่คัตเอาต์ต้องดาน
และใช้ขนาดสายให้ถูกต้องตามกำลังไฟที่ใช้งาน
ใบมีดของคัตเอาต์เมื่อสับใช้งานต้องแข็งเล็ก
ไม่หลวม
เบรกเกอร์ Breaker
เบรกเกอร์ หรือ Circuit Breaker เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาความปึกแผ่น
ในบ้านที่สำคัญอย่างหนึ่ง เพราะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถเปิดวงจร ตัดไฟ ได้เองอัตโนมัติ เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเกิดกว่าค่าที่กำหนด เบรกเกอร์ก็จะจัดการเปิดวงจรทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น และในเมื่อเบรกเกอร์มีความจำเป็นขนาดนี้ เราไปดูวิธีการใช้งาน พร้อมกับ
ดูแลรักษากันดีกว่าครับ
-ตรวจสอบฝาครอบเบรกเกอร์ต้องไม่แตกร้าว
-ต้องมีฝาครอบปิดเบรกเกอร์ให้มิดชิด
ควรติดตั้งในที่แห้งไม่เปียกชื้น และห่างไกลจากสารเคมี สารไวไฟต่างๆ
-เลือกเบรกเกอร์ที่มีขนาดเหมาะสมกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับวิธีการดูแลรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างถูกวิธี ซึ่งดูไปแล้วอาจจะดูเยอะไปนิดหน่อย แต่เอาเข้าจริงๆ เพื่อนๆ มิจำเป็นต้อง
ต้องเช็คทั้งหมดทุกข้อนี้ทุกวันนะครับ เพียงแค่ประมาณ ปีละ 1-2 ครั้งก็พอครับ หรือใครมีเวลาว่างมากกว่านั้น การตรวจเช็คบ่อยๆ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีครับ นอกจากตัวคุณเองจะปลอดภัยแล้ว คนที่คุณรักในบ้าน ก็จะไม่ได้รับอันตรายจากการใช้ไฟฟ้าอีกด้วย