ยางบวมน้ำ คืออะไร? ขาดไม่ได้หรือไม่ต้องใช้งานไหม? กระผมมีคำเฉลยให้ท่านครับ

[JoshuaPowell25]

1. ก่อนติดตั้งควรเตรียมพื้นผิวคอนกรีตให้สะอาด ไร้ฝุ่น น้ำมัน สนิมเหล็กรวมถึงผงซีเมนต์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำซึ่งจะทำให้ยางบวมน้ำเกิดการขยายตัวก่อนเวลา หากว่ามีเศษปูนหรือเศษฝุ่นผงใดๆต้องทำการล้างชะล้างให้เรียบร้อยก่อนที่จะติดตั้งโดยใช้แปรงลวดขัดพื้นผิวคอนกรีตให้สะอาด และในเรื่องที่พื้นผิวที่จะติดตั้งนั้นมีความเสียหายอยู่แล้วก็จะต้องทำการบูรณะให้เรียบร้อยก่อนที่จะเริ่มต้นการติดตั้งยางบวมน้ำ

1. ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็วเพียงแค่ติดลงบนพื้นผิวของโครงสร้างคอนกรีตหรือว่ายึดไว้ด้วยตะปูคอนกรีตเท่านั้น ไม่ต้องใช้วัสดุพิเศษใดๆ

3. ใช้งานได้บนพื้นผิวที่ขรุขระ รวมไปถึงแนวตั้งและแนวนอน

6. ประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการการขนย้ายเนื่องจากสามารถขนส่งได้อย่างสะดวก

4. สามารถทนแรงดันน้ำได้สูง มีความทนทาน แม้ว่าน้ำจะออกไปจากระบบแล้วการขยายตัวก็จะยังคงดั้งเดิม ยางบวมน้ำจะยังสามารถกั้นน้ำได้เมื่อมีน้ำเข้ามาอีกครั้ง

7. เมื่อswelling waterstop สัมผัสถูกน้ำแล้วเกิดการขยายตัวนั้น จะไม่เป็นเหตุให้คอนกรีตร้าว

5. ด้วยความสามารถในการป้องกันน้ำผ่านทุกสภาวะแม้จะอยู่ในสถาวะที่เปียกแฉะตลอดเวลาจึงเป็นเหตุให้ยางบวมน้ำสามารถใช้กับถังเก็บน้ำดี แท้งค์น้ำ รวมถึงบ่อสระน้ำได้ดี

2. ภายหลังที่เตรียมพื้นผิวคอนกรีตสะอาดเรียบร้อยแล้ว ให้นำ swelling waterstop ออกมาจากบรรจุภัณฑ์แล้วเริ่มต้นทำการติดตั้งโดยลอกเทปที่หุ้มอยู่ออกมาจากนั้นติดตั้งลงบนผิวรอยต่อคอนกรีต โดยการติดตั้งนั้นต้องให้มีช่องว่างจากผิวคอนกรีตประมาณ 5 เซนติเมตรเป็นอย่างน้อย ใช้มือกดยางบวมน้ำลงไปให้แนบกับรอยต่อ ใช้ตะปูตอกคอนกรีตเพื่อทำการยึดเอาไปไว้ให้แน่ใจว่า swelling waterstop จะไม่เคลื่อนเวลาที่เทคอนกรีต โดยตะปูจะมีระยะห่างประมาณ 50 เซนติเมตร และเมื่อต้องการทำการต่อกันในบริเวณรอยต่อหรือจุดร่วมใดๆไม่ควรใช้วิธีการแบบทาบ(นำมาซ้อนกัน) แต่ควรใช้วิธีการต่อแบบหัวชนท้ายมากกว่า(นำมาชนกัน) ถ้าหากคุณต้องการติดตั้งตามรอยต่อของโครงร่างที่เป็นกำแพงก็ต้องติดตั้งในแบบแนวตั้ง ในกรณีนี้ควรเว้นระยะห่างระหว่างตะปูประมาณ 30 ซม. ระยะห่างก็จะน้อยกว่าการติดตั้งในแบบอย่างแนวนอน ถ้าหากเกิดฝนตกต้องนำพลาสติกมาคุมทันทีทันใดเพื่อไม่ให้น้ำโดนตัว swelling waterstop

2. สะดวกในการเชื่อมต่อ เชื่อมต่อได้ง่ายเพียงแค่ใช้ขั้นตอนต่อชนหัวและท้าย

สามารถใช้งานตามลักษณะการใช้งานดังต่อไปนี้ – ใช้กับรอยเชื่อมของคอนกรีตที่ไม่เคลื่อนตัวและขยายตัวแค่นั้น ยกตัวอย่างเช่นรอยต่อผนังและพื้นใต้ดิน หรือรอยต่อผนังกันดิน รอยต่อระหว่างเ

8. ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานเนื่องจากไม่มีสารพิษที่อันตราย

คุณสมบัติสำคัญของ swelling waterstop

วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับเครื่องมือหยุดน้ำประเภทยางบวมน้ำ ชื่อไม่คุ้นกันเลยใช่ไหมครับผม วันนี้อันดับแรกผมจะมาบรรยายคร่าวๆเกี่ยวกับเจ้าอุปกรณ์หยุดน้ำประเภทนี้ก่อนเลยเนื่องจากเชื่อมั่นว่าหลายๆบุคคลอาจยังไม่รู้จักและยังไม่เข้าใจถึงผลประโยชน์ของมัน วัสดุจำพวกนี้ ร้องเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า Swelling waterstop หรือ วอเตอร์สต๊อปนั่นเอง พอขานชื่อว่าวอเตอร์สต๊อปอาจจะเริ่มต้นคุ้นๆกันมาบ้างแล้ว  ยางบวมน้ำปฏิบัติมาจากยางที่มีคุณลักษณะเป็นเบนโทไนท์ผสมกับไฮโดรฟิลลิค ใช้ในชิ้นงานเกี่ยวกับรอยต่อคอนกรีต โดยจะติดตั้งระหว่างข้อต่อของโครงสร้างคอนกรีต มีคุณสมบัติพองตัวได้เมื่อสัมผัสโดนน้ำ เพราะฉะนั้นยางบวมน้ำจะเข้าไปอุดช่องว่างระหว่างรอยต่อของโครงสร้างคอนกรีต (construction joint) เพื่อช่วยให้น้ำไม่สามารถเลื่อนไหลซึมผ่านได้ องค์ประกอบหลักของวัสดุชนิดนี้ คือยาง เบนโทไนท์ และสารผสมเพิ่ม โดยหลักการทำงานของวอเตอร์สต๊อปนั้นมันจะเริ่มต้นทำงานด้วยการขยายตัวต่อเมื่อสัมผัสกับความชื้นหรือน้ำ โดยสามารถขยายตัวได้มากถึง 3 เท่าเลยทีเดียว แต่จะใช้ได้ดีกับรอยต่อของรูปร่างคอนกรีตชนิดที่ไม่เคลื่อนตัวเท่านั้น  เนื่องจากส่วนผสมที่พอเหมาะของแป้งเบนโทไนท์และยางบิวทิวซึ่งทั้งสองแบบนี้เมื่อสัมผัสกับน้ำจะปรากฏการขยายตัวจึงทำให้ยางบวมน้ำสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการกั้นน้ำ ส่วนมากแล้ว Swelling waterstop จะถูกน้ำไปใช้งานในรอยต่อองค์ประกอบของคอนกรีตที่ไม่เคลื่อนไหวหรือรอยต่อที่ไม่มีการขยายตัวเสริมเติม ในส่วนของการติดตั้งนั้นแนะนำว่าควรตั้งให้มีระยะจากขอบของตัวคอนกรีตด้านนอกอย่างน้อยราวๆ 5 เซนติเมตรขึ้นไป ส่วนใหญ่แล้ว Swelling waterstop มักจะถูกนำไปใช้ติดตั้งในรอยต่อของโครงสร้างพื้นโดยเฉพาะชั้นใต้ดินบริเวณรอบท่ออุโมงค์ รวมไปถึงบ่อสระว่ายน้ำ และแท้งค์น้ำดื่มก็อีกด้วย และยังรวมถึงบริเวณต่างๆที่จำเป็นต้องป้องกันน้ำไม่ให้ไหลซึมผ่าน

วิธีติดตั้ง  swelling waterstop