อีกสัญญาณเตือนหนึ่งที่เชื่อว่าผู้ปฏิบัติงานสำนักงานหลายคนต้องเจอเลยก็คือ สัญญาณเตือนของร่างกายเกี่ยวกับอาการปวดข้อมือ แขน หรือว่าไหล่ ซึ่งอาการปวดเหล่านี้นอกจากเกิดจากการที่ต้องใช้นิ้วมือ ข้อมือด้วยการพิมพ์งานจอคอมฯติดต่อกันแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดก็คือ ท่าทางการวางมือ และข้อมือของการพิมพ์งานไม่ถูกต้องตามหลัก อาจวางข้อมือไม่ได้ระดับ ทำให้ข้อมือต้องรับน้ำหนักยิ่งกว่าเดิมทำให้ข้อมือปวดเมื่อยเร็ววิธีแก้ก็คือลองเปลี่ยนเก้าอี้ทำงานแบบเดิมที่อาจจะไม่มีที่พักข้อมือ เปลี่ยนมาเป็นชุดโต๊ะปฏิบัติงานแบบใหม่ที่มีการติดตั้งที่พักผ่อนมือ พักข้อมือมาด้วย Office Furniture แบบนี้จะช่วยให้ข้อมือได้มีที่ช่วยรองรับน.น.พิมพ์งานได้คล่อง เร็วกว่าเดิมอีกด้วยนะ
สัญญาณเตือนลำดับถัดไปถือว่าเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม แต่เป็นสัญญาณเตือนที่ร้ายแรงที่สุดเลยนั่นคือ สัญญาณเตือนจากร่างกายบริเวณหลัง ไม่ว่าจะเป็นแผ่นหลัง กลางหลัง กระดูกสันหลัง หรือว่าหลังด้านไหนด้านหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณผลร้ายทุกอย่าง อาการปวดหลังนี้มักเกิดขึ้นเพราะว่าการนั่งทำงานด้วยท่าทางที่ไม่ถูกวิธีเป็นเวลานาน หลายคนมักจะใช้วิธีแก้ปัญหาแบบง่ายก็คือหาวัตถุมาดันหลังไม่ว่าจะเป็นเบาะรอง หมอน หรือว่าที่นวดหลัง ซึ่งทางแก้แบบนี้ก็เป็นวิธีแก้ที่ใช้ได้อยู่สำหรับชั่วขณะ แต่หากต้องการแก้ไขอาการปวดหลังตรงนี้ ขอแนะนำ2อย่างคือ 1แนะนำให้ปรับเปลี่ยนเก้าอี้ทำงานแบบเดิมมาเป็น
Office Furniture ซะ สองปรับพฤติกรรมการนั่งของตนเองให้นั่งหลังตรงให้มากที่สุด Office Furniture
สัญญาณเตือนให้เปลี่ยนเก้าอี้ปฏิบัติงานดี ปวดหลัง
สัญญาณเตือนให้เปลี่ยนเก้าอี้ปฏิบัติงานดี ปวดข้อมือ แขน ไหล่
สัญญาณเตือนอย่างถัดไปที่ทำให้คุณต้องมาปรับเปลี่ยนเก้าอี้ปฏิบัติงานก็คือ อาการปวดขา ปวดเข่า เจ็บปวดบริเวณเท้า อาการสัญญาณเตือนเหล่านี้ส่วนหนึ่งมักจะมาจากเก้าอี้และท่านั่งที่ไม่ถูกสุขลักษณะของคุณนั่นเอง แต่อีกส่วนหนึ่งที่หลายคนไม่รู้ก็คือเกิดจากเก้าอี้ทำงานแบบเดิม หรือแบบธรรมดาที่ท่านใช้กันนี่แหละ เก้าอี้ทำงานแบบนี้บางรุ่นอาจทำมาไม่ได้มาตรฐานทำให้ส่วนสูงของเก้าอี้น้อยเกินไป(ถึงแม้ว่าจะปรับตำแหน่งให้สูงที่สุดแล้วก็ตาม) นั่งแล้วมันไม่สบายตัว นั่งแล้วมันไม่พอดี ส่งผลให้ตัวเรารับน
สัญญาณเตือนให้ปรับเปลี่ยนเก้าอี้ทำงานดี ปวดขา หรือข้อเท้า
สัญญาณเตือนให้ปรับเปลี่ยนเก้าอี้ปฏิบัติงานดี ปวดตา
การทำงานออฟฟิศเดี๋ยวนี้ แน่นอนว่าส่วนมากจะต้องทำงานอยู่กับหน้าจอเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการมองคอมพิวเตอร์ มือถือ หรือว่าแท็บเล็ต ซึ่งหากระหว่างวันในการทำงานตัวเราจะส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับดวงตาไม่ว่าจะเป็น การปวดตา ตาลาย หรือเกิดอาการจุดบอดดำ(มองเห็นเป็นจุดๆ) หรืออาการอื่นที่คล้ายกัน นั่นแสดงว่าต้องพักผ่อนสายตาสักนิดแล้ว หากไม่พักอาจทำให้สายตาสั้นหรือเอียงได้ นอกจากหยุดพักสายตาแล้วอีกสาเหตุหนึ่งที่มีอาการดังกล่าวอาจจะเกิดจากเก้าอี้ทำงานตัวเดิมนั้น ระดับที่นั่งกับสายตาที่จ้องหน้าจอมันไม่สัมพันธ์กันอาจจะต่ำไปสูงไป ให้เราปรับระดับเก้าอี้ แต่หากปรับเก้าอี้จนสุดแล้วยังไม่ได้ระดับแนะนำว่าลองเปลี่ยน Office Furniture สักตัวที่ปรับตำแหน่งได้ต่ำ-สูงกว่า
ทำไมถึงต้องฟังเสียงสัญญาณเตือนเหล่านี้
ถามว่าทำไมต้องฟังสัญญาณเตือนของตัวเราเหล่านี้ ตอบได้เลยว่าหากตัวของคุณเกิดสัญญาณเตือนที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณอะไรก็ตาม นั่นหมายความว่า ตัวของเราเริ่มรับภาระหนักเกินไปจนตัวเราป่วย เหนื่อย ต้องการหยุดพักแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการหยุดพักระยะสั้นหรือพักระยะยาว นอกจากการพักผ่อนแล้ว สัญญาณเตือนเหล่านี้ยังบอกว่าเก้าอี้ปฏิบัติงานที่คุณนั่งอยู่นั้น เริ่มไม่พอดีกับตัวคุณแล้วพูดง่ายๆก็คือ เก้าอี้ปฏิบัติงานที่เรานั่งอยู่นั้น ทำให้ตัวเราทำงานหนักกว่าเดิม ต้องเปลี่ยนแปลงโดยด่วน เพราะสัญญาณเตือนเหล่านี้นอกจากจะทำให้คุณเหนื่อยในการปฏิบัติงานมากกว่าเดิมแล้ว หากละเลยไว้อาจทำให้เกิดโรคตามมาทีหลังได้ โดยเฉพาะโรคออฟฟิศซินโดรมแบบต่างๆ
การทำงานบนเก้าอี้ทำงานนั้น ต้องยอมรับเลยว่าเก้าอี้เป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่ท่านต้องใช้นั่งปฏิบัติงานเป็นเวลานานมาก เฉลี่ยวันละประมาณหกถึงแปดชม.ต่อวัน นอกจากเก้าอี้แล้วร่างกายของผู้ปฏิบัติงานสำนักงานก็ปฏิบัติงานหนักมากเช่นกัน ซึ่งผู้ปฏิบัติงานออฟฟิศส่วนใหญ่ในวัยหนุ่มสาวมักจะมีอุปนิสัยอย่างหนึ่งที่คล้ายกันคือ มักจะมีความอดทนสูงมาก บางครั้งสูงจนไม่เอาใจใส่สัญญาณเตือนของตัวเราที่บอกว่า ตัวเราเหนื่อยแล้วพักได้แล้ว รวมไปถึงสัญญาณเตือนของร่างกายที่จะบอกว่าควรปรับเปลี่ยนเก้าอี้ปฏิบัติงานจากของเดิม เป็นOffice Furniture สักตัว มาดูกันว่ามีสัญญาณเตือนตัวเรามีอะไรบ้าง