ยิ่งไปกว่านั้น ก็เป็นการจัดเตรียมข้อมูลของ AFS Chapter ของไทย ซึ่งทางโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพรับผิดชอบ ส่วนคุณริจิราจาก AFS เธอก็จะจัดเตรียมแผ่น CD ทำนองเพลงรำวง และข่าวคราวเกี่ยวกับ AFS เมืองไทย ตลอดจนวัสดุและเครื่องปรุงอาหารไทยเพื่อจะนำไปทำของกินสังสรรค์กันที่โน่น
ผมเดินทางออกจากสถานีขนส่งจังหวัดลำพูนมาถึงกทม. เวลา 2 ทุ่ม ของวันที่ 7 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2550
ได้คลายเครียดและชำระร่างกายพอเบิกบานขึ้นบ้าง ผมก็เดินทางไปถกเถียงที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่เพื่อฟังถ้อยแถลงจากกลุ่ม
เรียนต่อต่างประเทศ AFS ก่อนเดินทาง มีอะไรที่ไม่ได้เตรียมตัวหรือไม่บริบูรณ์ก็จะได้แก้ไขให้เข้าที่เข้าทางในวันนี้ เรียนต่อต่างประเทศ
เราพร้อมใจกันคนละไม้ละมือ ทุกสิ่งสรรพก็เข้าที่เข้าทาง เพราะถ้าว่าไม่เบ็ดเสร็จจากเมืองไทย จะไปหาซื้อทางนู้นหรือคาดหวังพึ่งน้ำบ่อหน้าก็คงจะลำบาก และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เป็นกองกลางก็ช่วยกันแบ่งถือขึ้นเครื่อง
ที่นี่ได้พบปะกับ ผอ.ปรานอม เชื้อศักดาหงส์ และอาจารย์สิรี เยาวภาคย์โสภณ จากโรงเรียนวัฒ-โนทัยพายัพ ซึ่งจะเป็นเพื่อนร่วมคณะท่องเที่ยวไปเรียนต่อต่างประเทศ ณ ประเทศหลังม่านเหล็กด้วยกัน
การเที่ยวคราวนี้ เป็นที่น่าเสียดายที่อาจารย์เฉลียว ปัทมาลัย (เตี้ย) อาสาสมัครดีเด่น (outstanding volunteer) ประจำปี 2549 ที่โรงเรียนเลยพิทยาคม ไม่สามารถร่วมเดินทางไปกับพวกเราด้วย เนื่องด้วยมีเหตุจำเป็นเกี่ยวกับเรื่องการส่งชิ้นงาน ซึ่งเขาเปลี่ยนเวลากะทันหัน เธอเองก็เสียดายไม่น้อยเพราะได้วางแผนไว้อย่างดี เช่น เตรียมเสื้อผ้าจะไปเต้นเซ้งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้พี่น้องชาวรัสเซียชม เราก็ได้แต่ปลอบใจว่า ช่างเถอะ เอาไว้ไปคราวหลังก็แล้วกัน
ครูศิริ คงเมือง ผู้ใหญ่ที่เคารพกันโทรให้ไปรับของฝากที่โฮเต็ลรัตนโกสินทร์ ข้างสนามหลวง พร้อมด้วยจะขอเป็นผู้จัดงานเลี้ยงข้าวกลางวั
โดยมีเพื่อนครูกับนักศึกษาลงมาส่งหลายคน ถึงกทม. ราวตี 5 ครึ่ง ก็ขึ้นรถรถแท็กซี่เข้าพักย่านวศินศินี คอร์ท ชิดสำนักงาน AFS ประเทศไทยที่จ.นนทบุรี
ตอนบ่าย พอมีเวลาเหลือ เราก็รวมตัวกันถึงเรื่องการเตรียมการต่างๆ ที่แต่ละคนได้รับมอบหมาย เช่น ผอ.เสรี พิมพาศ จากวิทยาลัยสตรีศรีน่าน ก็ได้ใจอารีจัดซื้อผ้าทอประจำถิ่นบายน้ำไหล ที่มีเกียรติของเมืองน่าน เพื่อจะนำไปเป็นของชำร่วยให้ทาง AFS เขตต่างๆ และโรงเรียนทั้งหลาย ที่คณะเราจะไปเยี่ยม โดยซื้อได้ในราคาพิเศษและสวยงามมาก ถูกใจชาวคณะเรียนต่อต่างประเทศเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้น ก็แลกเงินรัสเซียกัน ซึ่งเจ้าพนักงานแบงค์ได้นำเงินสดมาบริการถึงห้องประชุม การแลกเงินจากธนาคารก็สบายใจดี ไม่จำต้องหวาดหวั่นว่าจะเป็นแบงค์เทียม ด้วยเหตุว่าธ.เขามีระบบสอบทานเช็คเป็นอย่างดีและไว้ใจได้
ข้าวของเครื่องใช้อะไรที่ยังขาด เราก็ใช้เวลาในบ่ายนั้นไปจัดการให้เข้าที่เข้าทาง แล้วก็แยกย้ายกันไปผ่อนคลายและนัดโคจรไปพบกันเวลา 16.00 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิในพรุ่งนี้ คือวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2550
คืนนั้น เราจัดกระเป๋าใหม่ตามข้อแนะนำของอาจารย์สุวณีย์ ที่ไม่ให้นำเครื่องแต่งตัวไปมาก ของมีคมทุกสิ่งทุกอย่างเช่น มีดพับ ตระไกรตัดเล็บ ส้อม ฯลฯ รวมทั้งของเหลว เช่น ครีมต่างๆ ที่เกิน 100 มิลลิกรัม จำเป็นจะต้องจัดใส่กระเป๋าใบใหญ่ลงใต้ท้องเครื่องบินให้เกลี้ยง เพราะเขาเคร่งเรื่องนี้มาก ตั้งแต่มีการค้นพบระเบิดเหลวที่ท่าอากาศยานนานาชาติ ฮิทโธรว์ (Heathrow) อังกฤษ เมื่อ 3-4 ปีก่อน
วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นวันเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ข้าเจ้าได้นำของใช้ส่วนเกินไปฝากห้องชั้นด้านล่างที่พักไว้ก่อน
เนื่องมาจากแว่นของข้าพเจ้ามีอันเดียว ทาง AFS แนะนำให้นำไป 2 อัน กลางคืนวันนั้น จึงไปจัดการตัดแว่นเพิ่มจำนวนอีก 1 อัน เนื่องจากเรื่องแว่นตาเป็นเรื่องสำคัญมาก สิ่งอื่นยังพอแก้ปัญหาได้หากว่ามีปัญหา แต่เรื่องแว่นตานี้เรื่องสำคัญ ถ้าเกิดไปแตกหักหรือสูญคงวุ่นวายแน่ๆ หากมีเก็บสำรองไว้ก็พอจะอุ่นใจบ้าง
ครูสุวณีย์ เสียงหลาย หรือ พี่แป๊ะของหมู่เราชาว AFS ก็ได้มารวมตัวและเตรียมพร้อมความรู้ความเข้าใจต่างๆ เกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศ ให้พ้องต้องกัน พร้อมทั้งให้ความคิดเห็นและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ฐานะที่ท่านชำนาญอยู่ในกลุ่มนี้มานานนมหลายสิบปี จึงมีความชำนาญและคำเสนอแนะ ตลอดจนคำแนะนำต่างๆ ให้เราอื้อซ่า ใครไม่มีกระเป๋าหรือกระเป๋าไม่ทนพอ พี่แป๊ะก็จะอนุเคราะห์ให้หยิบยืมบ้าง บางครั้งบางคราวก็ยื่นให้ฟรีไปเลย พร้อมกับยังไปต่อรองขอกระเป๋าจากทางแบงค์มายื่นให้เราอีกคนละใบสองใบ ก็ต้องขอขอบใจอ.จ.สุวณีย์ และธ.ไทยพาณิชย์ สนญ. มา ณ โอกาสนี้ด้วย