นั้นอาจจะไม่ใช่เพราะเครียดขึ้น หรือความรู้น้อยลงเพราะเครียดนั้นคนทุกยุคและมีกระแสความยากลำบากไม่แพ้กัน แต่ความรู้ตรงนั้นเชื่อนินทาในสมัยนั้นย่อมจะหาได้หมูกว่า แต่คนในยุคนี้อาจจะใจแก่สุขบางตากว่าและใส่ใจในรายละเอียดละออในการใช้บางตากว่า จึงทำมีสุขภาพดีน้อ กรดไหลย้อน
ทำไมคนในนี้ถึงทำงานเลี้ยงหนักกันยิ่งนัก คำถามของผู้ใหญ่ที่มีลูกหลานในตอนนี้ ในสายตาของคนยุคที่ทุกอย่างเปล่ารีบและคนไม่ได้รับแข่งขันกันความจุนี้และที่สำคัญหมายถึงคนไม่ได้ขึดติดกับวัตถุการกำหนดมากขนาดนี้นั้น ในยุคนั้นจะหมายถึงยุคที่มีสงครามต้นข้าวยากหมากแพงก็จริง คนในยุคนั้นก็ยังคงชำระคืนชีวิตได้ดีและมีบรรทัดในการใช้ชีวิตที่ดีมากกว่าคนในกาลสมัยนี้เป็น ยกตัวทำนองง่ายๆเช่น คนในยุคนี้เป็น กรดไหลย้อน
ตามสมัยการกำหนดอีกอาทิเช่นกัน อย่างไรก็ดีแม้เทียบกับคนในยุคก่อนแล้ว ถึงแม้จะอยู่ในข้าวลำบากหมากแพงมีสงครามเมืองต่างๆมากมาย อย่างไรก็ดีคนกาลสมัยนั้นก็ไม่คุ้นได้มายินว่ามีใครที่จะหมายถึงโรค กรดไหลย้อน
ได้อื้อซ่ารุ่งโรจน์ พร้อมทั้งในมื้อเย็นปกติคนสยามในสมัยก่อนจะนิยมกินของแหล่งไม่มันและเลือกทาผักมากขึ้น เพราะว่าจะไปช่วยมอบกระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้นในขณะหลับใหล ยังกินเร็วกว่าคนในนี้อีกด้วย เพราะคนในยุคนั้นทานอาหารค่ำย่อหน้าประมาณหกโมงเย็นและจะเสร็จตอนประมาณหนึ่งทุ่มตรง ไม่ใช่ว่าเพราะไม่มีไฟฟ้ากลัวนินทาจะดูกับข้าวไม่แลเห็นอย่างไรก็ตามเค้ามีความเชื่อว่าการทานภัตจะทำให้ ดีต่อกระเพาะอาหารมากกว่าทั้งยังฉลุยท้องมากกระทั่งนอนด้วย เพราะกว่าจะนอนก็ประมาณสามทุ่มซึ่งห่างจากเพราสุดหลังสุดราวสี่ชั่วโมง ซึ่งหมายถึงช่วงที่โครงร่างได้แยกย่อยอาหารการกินส่วนบนไปบางส่วนทำอาหารท้องพร้อมทั้งโรค กรดไหลย้อน
กันข้อนข้างอื้อซ่าเพราะนี้เป็นโรคของคนรีบที่ไม่ใส่ใจดูแลตัวเองให้ดี เนื่องจาก ในยุคนี้คนไม่นิยมทานข้าวเช้า ทั้งๆที่เป็นมื้อหลักเครื่องใช้แต่จะเอามื้อเช้าและมื้อมัธยมวันเอาไว้เพื่อกันแต่จะรับประทานกาแฟแทนอาหารเช้า ซึ่งกาแฟนั้นเป็นสิ่งที่ส่งผลร้ายต่อกระเพาะที่ว่างเปล่าอาหารเป็นอย่างไม่เบา แล้วข้างหลังลูกจากตื่นกายของเรานั้นท้องจะว่างมากเปล่าสามารถหรือซับซึมซับคาเฟอีนจำนวนมากเอาไว้ได้อย่างแน่หลับ อย่างไรก็ดีสมัยนิยมทำให้กาแฟเป็นหลักกับขนมปังที่มีแม่น้ำลำคลองต้นตาลสูงทำให้สเก๊ตช์กายไม่ได้รับสารอาหารที่แค่พอสำหรับมื้อเช้าที่จำเป็น แต่กลับไปทำร้ายด้วยกาแฟและแม่น้ำลำคลองตาลแทนของกินดี จึงทำให้กลายเป็นโรค กรดไหลย้อน
ของคนในสมัยนั้นพร้อมกับคนในยุคนี้มีจำนวนต่างกันมากเนื่องจากคนในก่อนทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักอาหารงาน และเหมาะสมสมในแต่ละมื้อ เช่นในช่วงเช้าจะทานอาหารอ่อนเน้นพืชผักผลท่อนไม้ เพราะกระเพาะยังคงว่างเปล่าเสร็จย่อยของหนักๆ ข้อความย่อยมัธยมวัน ก็จะทานหนักขึ้นเน้นเนื้อไม่ติดแน่นมันและ หมายถึงอาหารข้อนด้านอยู่พุงกะทิอาจจะคือกะทิก็ได้เพราะหลายคนอาจจะมาถึงใจผิดว่าแกงกะทิไม่ดีเพราะมันส์ทำให้อ้วนและอาจจะทำมอบความเจ็บไข้ กรดไหลย้อน
ขึ้นได้ แต่สุทธิแล้วเปล่าใช่ล่วงแกงกะทินั้นคือไขมันดีที่มีอยู่ในธรรมชาติบ้านเมืองร่างเชี่ยวชาญนำไปใช้ได้ล่วง เป็นไขมันดีที่เราบริโภคได้แต่อาจจะควรจำกัดการทานประเดี๋ยว เพราะอย่างไรสะก็ขึ้นนามว่าแม่น้ำลำคลองมันส์กะทิ จึงอาจจะส่งผลมิดีร่างตัวได้ เพราะว่าอะไรที่กินไม่เบาเกินไปก็ไม่ดี ต้องบริโภคแต่พอดีจึงจะสมสม เพราะมื้อกลางวันสำคัญเปล่าแพ้มื้อเพรางายเลยเพราะร่างกายจะนำอำนาจงานนี้ไปใช้ตลอดช่วงบ่ายที่เราต้องนั่งทำ และนั่งเล่าเรียนจึงต้องเป็นอำนาจงานเหมาะสมสมให้ร่างนำไปใช้ได้ทันที และลดความเสี่ยงในการที่จะเป็นโรค
กรดไหลย้อน กรดไหลย้อน
มากแค่คนในยุคนี้เลย เพราะคนในนั้นใส่ใจกับอาหารในๆมีและเลือกกินแต่ขอสดสะอาดและมีคุณค่า เช่น ในตอนเช้าก็จะหาอะไรกินง่ายๆ และมักจะเป็นของกินต้นแบบอ่อนๆอาทิ โจ้ก เกาเหลา ข้าวต้มพร้อมทั้งผักผลไม้ต่างๆ หลีดเลี่ยงอาหารแหล่งมีรสจัด แต่จะทานอาหารให้พวกแหล่งมากเท่าที่จะทำได้นั้นจึงเป็นมูลเหตุเมื่อเปรียบเทียบอัตรางานโรค กรดไหลย้อน
ซึ่งวัตถุปัจจัยใช้อย่างถูกต้องนี้ทำมอบคนในสมัยเก่ามีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพที่ดีกว่าคนในกาลสมัยนี้มาก แต่ก็เป็นเรื่องน่าแหวกแนวที่คนในสมัยก่อนนั้นไม่ได้มีความรู้และได้รับเรียนทราบสาระได้มาอย่างง่ายดายเหมือนเข้ากับคนในปัจจุบัน ทั้งๆที่ในยุคนี้งานเสพสื่อหรือหาข้อมูลนั้นง่ายแสนง่ายทั่วๆที่วิธีอยู่แค่บนฝ่ามือ แต่กลับมีการใช้ชีวิตที่มิดีเท่าคนในยุคก่อนที่ไม่มีการสารแหล่งดี และไม่มีเทคโนโลยีด้วยมาช่วยให้ความรู้เลย บางคนแทบจะจะอ่านตำราไม่ออกด้วยใหม่แต่เค้าก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างดีพร้อมด้วยมีคุณทัศนียภาพมากกว่าคนในยุคมากจริงๆ นี้จึงเป็นเรื่องน่านินทาที่คนในยุคนี้เป็นโรค กรดไหลย้อน
Dilber MC Theme by HarzeM