ดูแลและลดการหลุดร่วงของเส้นผมและกลับมามีสุขภาพอนามัยผมที่ดีและเงางดงามด้วยวิตามินไบโอติน

[JoshuaPowell25]

 biotin ย่อมทำให้กระบวนการในการสร้างเซลล์ใหม่เกิดสภาวะที่บกพร่องได้ ตัวอย่างเช่นอวัยวะที่ต้องมีการสร้างเซลล์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา คือ ผิวพรรณ เส้นผม และเล็บของเรา ยิ่งจะปรากฎสภาวะที่บกพร่องได้ง่ายมาก เช่น การที่ทำให้เกิดภาวะผมร่วง ผมยาวสช้า ผมแห้งแตกปลาย ผมหงอกผิวหนังอักเสบ เล็บเปราะหรือฉีกขาดง่าย ไบโอติน
 บุคลิกลักษณะ เป็นสิ่งยิ่งใหญ่ คนไทยในปัจจุบันนี้สนใจในสุขภาพและบุคลิกภาพกันมากขึ้น  การหาความฉลาดใหม่ๆ ก้าวทันโลกอยู่เป็นประจำ ดูแลใส่ใจตัวเอง ออกกำลังกาย มีบุคลิกภาพที่ว่องไวว่องไว และมองโลกในแง่ดี นอกจากนี้การดูแลจากภายในเพื่อให้ดูดีถึงภายนอกก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นจุดเริ่มที่ทำให้คนมองดูเห็นก่อนเป็นอันดับแรก ผมนับเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในอันดับต้นๆที่ทำให้เราดูดีขึ้นได้ บางท่านเสียเงินเสียทองจำนวนมากในแต่ละเดือนเพื่อเข้าร้านทำผม เพราะการที่มีผมที่ดูดี ย่อมเป็นเหตุให้บุคลิกโดยรวมดูดีขึ้นไปด้วย แต่สภาวะในปัจจุบันนี้ มีการใช้สารเคมีกับเส้นผมเป็นประจำ การย้อมสี ดัดกัดสี ยืดผม ไดร์ผมเป่าผมด้วยลมร้อน ก็เป็นต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการผมร่วง จนบานปลายถึงอาการที่เรียกว่าผมบางได้ นอกจากนี้กรรมพันธุ์ หรือฮอร์โมนก็มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างยิ่ง เรามักจะเห็นว่าผู้ชายจะมีโอกาสที่ผมจะหลุดได้มากกว่าผู้หญิง เนื่องจากผลของฮอร์โมนเพศชายนั่นเอง การรับประทานอาหารเสริมBiotinเป็นอีกทางเลือกที่ดีในการดูแลรักษาเส้นผมให้มีอายุยืนยาวนานยิ่งขึ้น biotinเป็นสารอาหารชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะในการบำรุงเส้นผมและเล็บ ทำให้ผิวหนังบริเวณหนังศีรษะให้แข็งแรง ป้องกันการฉีกขาดหลุดร่วงที่เกิดจากปัจจัยอื่นๆ Biotinเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เส้นผม, เล็บ และผิวหนังมีสุขภาพดีและแข็งแรง อีกทั้งมีส่วนสำคัญช่วยระบบในการเผาผลาญอาหารจำพวกแป้งและไขมันในร่างกายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพBiotinหรือวิตามินบี 7(B7) หรือที่เรียกว่าวิตามินเอช(H) ) มีสูตรทั่วไปคือ C10H16O3N2S ผลึกของBiotinเป็นรูปเข็มยาว ในธรรมชาติมักเกิดรวมอยู่กับกรด<span style=
line-height: 1.42857;
>แอมิโนไลซีน (lysine)</span><span style=
line-height: 1.42857;
> Biotinนั้นเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของ วิตามินบีคอมเพล็กซ์(B Complex) และหน้าที่ของวิตามินบีก็คือการเปลี่ยนอาหารจำพวกแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตให้กลายเป็นกลูโคส เพื่อเปลี่ยนให้เป็นพลังงานถัดไป เป็นวิตามินที่หลอมละลายในน้ำซึ่งมีซัลเฟอร์เป็นส่วนประกอบ และจัดอยู่ในฝ่ายวิตามินบีรวม มีหน่วยวัดเป็นไมโครกรัม (มคก. หรือ mcg.) ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเผาผลาญไขมันและ โปรตีน และในการสังเคราะห์กรดแอสคอร์บิกต้องใช้Biotinเป็นตัวช่วย โดยแบคทีเรียในไส้ก็สามารถสังเคราะห์ ไบโอติน

 biotin นี้ได้ ดังนั้นเพื่อป้องกันการขาดbiotin และแร่ธาตุที่จำเป็นอื่น ๆ ควรจะแน่ใจว่าทานอาหารได้พอและครบ5หมู่ ในทุกๆวันหากขาด ไบโอติน

 เองได้</span>อาหารที่อุดมไปด้วยbiotin ได้แก่ ตับหมู ตับวัว ไตวัว เนื้อวัว ปลาเนื้อขาว น้ำมันปลา ข้าวโพด รำข้าวสาลี นม เนย โยเกิรต ผักต่างๆโดยเฉพาะดอกกะหล่ำ กะหล่ำปลี เห็ด แครอท ไข่แดง แป้งถั่วเหลือง ถั่วลิสง บริเวอร์ยีสต์ไม่ก็ยีสต์ที่ใช้หมักเหล้า (brewer's yeast), นมผึ้ง ข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสีอย่างข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ เป็นต้นและตัวที่สกัดกั้นการดูดซึมของbiotin ทำให้ต้องขับถ่ายทิ้งไปมาก ได้แก่ ไข่ขาวดิบ (ซึ่งในไข่ดิบนั้นจะมีโปรตีนชนิดหนึ่งที่ชื่อเอวิดีน (avidin) ที่มีคุณสมบัติในการรวมกับBiotinในอาหาร หรือลำไส้ แล้วเกิดเป็นสารประกอบที่ไม่ละลายในน้ำ ทำให้ลดการดูดซึมเข้าไปสู่ร่างกายและถูกขับทิ้งส่งผลให้ร่างกายของเราขาดวิตามินBiotinได้อีกทางหนึ่งด้วย)รวมถึง แอลกอฮอล์ ยาในกลุ่มซัลฟา ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีมากในเพศชาย และกระบวนการแปรรูปอาหารมีแบคทีเรียตัวหนึ่งที่เข้าอยู่อยู่ในลำไส้ใหญ่ของเราที่ เรียกว่า นอร์มอลฟอร์ร่า (normal flora) ซึ่งเป็นโปรไบโอติกส์probiotics จะสามารถสร้าง ไบโอติน
 ในคนเรานัก แต่ในสภาพความเป็นจริงแล้วในหลายสภาพการณ์ เช่น ในผู้ที่รับประทานยาในกลุ่มยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียอยู่เป็นประจำ มักจะพบว่ายาฆ่าเชื้อดังกล่าวจะไปทำลาย นอร์มอลฟอร์ร่า ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ และจะมีผลกระทบให้ร่างกายของเราได้รับและผลิตไบไอตินได้ไม่เพียงพอในปัจจุบันพบว่าการขาด biotinพบได้บ่อยขึ้นมากกว่าแต่ก่อนมาก ผู้ที่มักจะรับประทานอาหารที่ผ่านกรรมวิธีมาก หรือคนที่ใช้ยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะบ่อย ๆดังกล่าว จะพบการขาด ไบโอติน
 biotinได้เองตามธรรมชาติ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในร่างกายของเราได้ รวมถึงในของกินที่รับประทานมักจะมี biotin ไบโอติน

 เพียงพอ ปกติจึงไม่ค่อยพบปัญหาการขาดไบโอติน ไบโอติน