16-09-2557

[nongnai]

รถติด! สาวท้องคลอดข้างทาง-โชคดี‘พยาบาล’ผ่านมาช่วย



สามีพาภรรยาท้องแก่ใกล้คลอดนั่งรถเก๋งไปโรงพยาบาล แต่รถติดนานทำให้เจ็บท้องและจะคลอดในรถ ต้องแจ้งหน่วยกู้ชีพมาช่วย ก่อนที่จะมีนารีขี่ม้าขาวเป็นพยาบาลมืออาชีพผ่านมาพบ ช่วยทำคลอดให้ในรถ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 1 ก.ย.57 เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี รับแจ้งเกิดเหตุหญิงตั้งครรภ์เกิดเจ็บท้องจะคลอดลูก อยู่ภายในรถเก๋งที่จอดอยู่ริมถนนลำลูกกา-พหลโยธิน ช่วงโค้งวัดลาดสนุ่น หมู่ 7 ต.คูคต อ.ลำลูกกา ขอให้เจ้าหน้าที่รีบมาช่วยเหลือด้วย หลังรับแจ้งจึงประสานงานไปยังหน่วยแพทย์กู้ชีพเทศบาลนครรังสิต รีบรุดเดินทางไปช่วยเหลือ

เมื่อไปถึง พบรถเก๋งมาสด้าสีขาว ทะเบียน ชณ-8366 กทม. จอดอยู่ข้างทาง ภายในรถมี น.ส.เพชรรัตน์ เต่าทอง อายุ 25 ปี ซึ่งตั้งครรภ์ นั่งอยู่เบาะซ้ายด้านหน้า และกำลังจะคลอดทารกออกมา โดยมีสามีคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ระหว่างนั้น ได้มี น.ส.มณฑิรา เมืองลอง อายุ 29 ปี พยาบาลประจำโรงพยาบาลบีแคร์ เมโมเรียล ซึ่งกำลังจะเดินทางไปทำงาน และผ่านมาพบเห็นเหตุการณ์พอดี จึงแวะเข้ามาช่วยทำคลอดให้กับ น.ส.เพชรรัตน์ ได้อย่างปลอดภัย โดยคลอดออกมาเป็นทารกเพศชาย ก่อนจะนำตัวทั้งแม่และลูกน้อยนำส่งโรงพยาบาลภูมิพลต่อไป
น.ส.เพชรรัตน์ เต่าทอง คุณแม่คนใหม่กล่าวว่า ตนเองตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 และวันนี้สามีกำลังพาเดินทางไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลภูมิพล แต่ระหว่างทางการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก จนตนเกิดเจ็บท้องขึ้นมาอย่างรุนแรงและใกล้คลอดเต็มที สามีจึงจอดรถเข้าข้างทางเพื่อขอความช่วยเหลือ โชคดีที่มีหน่วยแพทย์กู้ชีพเทศบาลนครรังสิต เดินทางมาดูแล และมีพี่พยาบาลคนหนึ่งผ่านมาพอดีจึงเข้าช่วยเหลือ จนตนและลูกปลอดภัยดีทั้ง 2 คน จึงอยากขอบคุณทุกคนทุกฝ่ายที่ได้ช่วยเหลือตนเป็นอย่างมาก        

ด้าน น.ส.มณฑิรา เมืองลอง พยาบาลคนเก่ง กล่าวว่า ตนกำลังจะไปทำงานที่โรงพยาบาล ระหว่างทางเห็นหน่วยแพทย์กู้ชีพกำลังให้ความช่วยเหลือประชาชนอยู่ข้างทาง เมื่อสอบถามจึงทราบว่ามีหญิงท้องแก่ใกล้คลอด จึงได้จอดรถและให้ความช่วยเหลือ ใช้วิชาชีพที่เรียนมาอย่างเต็มที่ ช่วยทำคลอดให้ เพราะเห็นว่าไม่สามารถเดินทางไปคลอดที่โรงพยาบาลได้ทันและเกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายขึ้นกับแม่และลูกได้ ซึ่งเมื่อทำคลอดออกมาแล้ว พบว่าเป็นเด็กทารกเพศชาย ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง

[nongnai]

คลอดลูกบนรถกระบะ



เวลา 07:15 น. วันที่ 5 กันยายน 2557 รับการประสานงานจาก สภ.ปากช่อง ว่ามีบุคคลเจ็บท้องใกล้คลอดภายในยานพาหนะ
บริเวณใกล้เคียงสะพานลอยตลาดปากช่อง ถนนมิตรภาพ (สายเก่า) ชุดปฏิบัติการณ์รถ A5 ดำเนินการตรวจสอบ
เบื้องต้นพบหญิง 1 ราย ได้คลอดเด็กทารกออกมาแล้วเป็นเพศชาย อยู่ภายในรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน ผษ-1093 นครราชสีมา
จึงประสานทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลปากช่องนานา ให้การช่วยเหลือในจุดเกิดเหตุ
เมื่อทีมแพทย์ฉุกเฉินมาถึงได้ทำการตัดสายรก พร้อมตรวจสุขภาพเบื้องต้น ซึ่งทางคณะแพทย์แจ้งว่า เด็กทารกมีสุขภาพแข็งแรงดี แม่ของเด็กอยู่ในภาวะที่ปลอดภัย จากนั้นทีมแพทย์ฉุกเฉินจึงได้นำทารก พร้อมแม่ ส่งโรงพยาบาลปากช่องนานา เพื่อตรวจสุขภาพและดูแลสุขภาวะเพิ่มเติม

ขอบคุณภาพจาก อาสาสมัคร กู้ภัย05, กู้ภัย409 สว่างวิชชาธรรมสถาน

[nongnai]

สิ้นเกจิพระดังนครปฐม "หลวงพ่อยะ" เจ้าอาวาสวัดท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.สามพราน ด้วยโรคเบาหวานและไตวาย สิริอายุ 87 ปี ประชาชนจำนวนมากแห่ร่วมประกอบพิธีรดน้ำศพ



เมื่อตอนบ่ายของวันที่ 8 ก.ย.57 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า พระเกจิดัง พระมงคลสิทธาจารย์ หรือหลวงพ่อยะ เขมปาโร เจ้าอาวาสวัดท่าข้าม ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม มรณภาพ ขณะนี้นำศพมาตั้งให้ประชาชนรดน้ำศพและตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดท่าข้าม ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ

จากการตรวจสอบ พบว่าที่ศาลอเนกประสงค์ของวัดท่าข้าม มีประชาชนและข้าราชการจำนวนมากแต่งชุดดำไว้ทุกข์มาร่วมประกอบพิธีรดน้ำศพ โดยศพของหลวงพ่อยะ นอนสงบนิ่งตั้งอยู่บนตั่งไม้ประดับด้วยดอกไม้ เพื่อรอพระราชพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ โดยสมเด็จพระธีรญาณมุณี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ เป็นประธานในพิธีและเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายมนู สร้อยพลอย นอภ.สามพราน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส หลังจากประกอบประธานฝ่ายสงฆ์และฆราวาสประกอบพิธีเสร็จ จากนั้นประชาชนทยอยกันเข้าแถวสรงน้ำศพกันยาวเหยียด
พระปลัดณัฐพงษ์ อุปสนะโต รองเจ้าอาวาสวัดท่าข้าม เปิดเผยว่า หลวงพ่อยะ มรณภาพเมื่อวันที่ 6 ก.ย.57 เวลา 20.35 น.ที่ รพ.ธนบุรี 1 ด้วยอาการเบาหวานและไตวาย อายุ 87 ปี 63 พรรษา ท่านป่วยด้วยโรคดังกล่าวมา 4-5 ปี รับการรักษาที่ ร.พ.ธนบุรี 1 เรียกว่าเข้าๆ ออกๆ มาตลอด โดยหลวงพ่อยะเป็นเกจิดังของนครปฐม ที่มีลูกศิษย์ลูกหามาก ทางด้านเมตตามหานิยม ทำนายทายทักแม่นยำก่อนที่จะเริ่มป่วย เคยทักชาวบ้านหลายรายว่าจะมีโชคลาภ จากการค้าขายและเสี่ยงโชคจนร่ำรวย ซึ่งคนที่ทักเหล่านั้นล้วนประสบผลตามที่ทำนาย จึงมีประชาชนเดินทางมากราบไหว้กันแน่นวัดทุกวัน จนกระทั่งท่านป่วย ทางวัดจึงของดและเยี่ยม สำหรับศพของท่านนั้นหลังจากพิธีรดน้ำเสร็จสิ้น จะนำศพท่านบรรจุลงในโลงแก้ว จะประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมจำนวน 50 วัน ขณะนี้มีเจ้าภาพจองแล้ว 50 วัน หากมีมากก็จะขยายวันสวดพระอภิธรรมออกไปอีก

สำหรับประวัติพระมงคลสิทธาจารย์ หรือ หลวงพ่อยะ เขมปาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าข้าม เกิดวันที่ 15 มี.ค. 2470 ปีเถาะ อุปสมบทหลังจากปลดประจำการทหารเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2494 ที่วัดท่าข้าม และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสปี 2517 และได้พัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองและมีคนเดินทางมาท่องเที่ยวที่วัดมากขึ้น จนปี 2518 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ชั้นพระครูที่ พระครูเกษมธรรมรักษ์ และปี 2550 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญ ราชทินนามที่ พระมงคลสิทธาจารย์ ฝ่ายวิปัสสนา ซึ่งหลวงพ่อยะ เป็นที่เคารพนับถือของบรรดาลูกศิษย์และประชาชนโดยทั่วไป

[nongnai]

มีแปลก ๆนะครับลองใช้วิจารณญานในการรับชม

ใ

[nongnai]

จันทบุรี - ชาวบ้านแห่จุดธูปกราบไหว้ ขอเลขเด็ดจากต้นกล้วยประหลาด 3 ต้น ที่เครือแรกไม่มีหัวปลี แต่มี 2 หวี 7 ลูก ส่วนต้นสองไม่มีหัวปลี แต่มีเครือ 2 หวี 15 ลูก และต้นสาม มีหัวปลี 2 หัวในเครือเดียวกัน สร้างความแตกตื่นนำไปตีเป็นเลขเด็ดเสี่ยงโชคต่อไป


      
       วันนี้ (10 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับโทรศัพท์จาก นายอานุภาพ จันทแสง อายุ 21 ปี และ น.ส.บัณฑิตา เลิศมงคล อายุ 20 ปี 2 สามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ที่ 7 ตำบลนายายอาม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ว่า ต้นกล้วยที่ปลูกไว้ข้างบ้าน จำนวน 3 ต้น อายุประมาณ 15 ปี มีความแปลกประหลาดออกเครือไม่เหมือนกับต้นกล้วยอื่นๆ ขอให้ผู้สื่อข่าวเดินทางมาทำข่าวด้วย
      
       หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ พบชาวบ้าน และเด็กเล็กจำนวนหนึ่งกำลังนั่งจุดธูปกราบไหว้ ขอพร และขอเลขเด็ดจากต้นกล้วยประหลาด 3 ต้น อยู่เมื่อผู้สื่อข่าวได้สำรวจต้นกล้วย 3 ต้น โดยรอบพบว่า ทั้ง 3 ต้น มีความแปลกไม่เหมือนกันทั้ง 3 ต้น โดยต้นแรก มีเครือ ไม่มีหัวปลี แต่มี 2 หวี 7 ลูก ต้นที่สอง ไม่มีหัวปลี แต่มีเครือ 2 หวี 15 ลูก และต้นที่สาม มีหัวปลี 2 หัวในเครือเดียวกัน ซึ่งแตกต่างจากต้นกล้วยอื่นๆ ที่จะต้องมีหัวปลีก่อน และค่อยมีลูกออกมา ทำให้เรื่องนี้หลังข่าวแพร่ออกไปก็มีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาดูต้นกล้วยประหลาดอย่างไม่ขาดสาย และได้จุดธูปกราบไหว้ ขอพร และขอเลขเด็ด
      
       นายอนุภาพ เจ้าของบ้านถึงกับนำแป้งมาโรยที่กลางลำของต้นกล้วยเพื่อถูขอเลขเด็ด ชาวบ้านบางคนถึงกับนั่งเพ่งเพื่อมองหาเลขเด็ด แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครมองเห็นเลข สุดท้ายต้องพึ่งดวงเด็กอายุ 1 ขวบครึ่ง และเด็กอายุ 4 ขวบ เข้ามาถูต้นกล้วยเพื่อได้เลขเด็ด ซึ่งเด็ก 1 ขวบครึ่งมองเห็นเลขเด็ด 92 ส่วนเด็กอายุ 4 ขวบ มองเห็นเลขเด็ด 98 ซึ่งในเรื่องนี้เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล พร้อมกันนี้ นายอนุภาพ เจ้าของบ้านเชื่อว่า ต้นกล้วยประหลาดนี้จะทำให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต และจะทำให้ตนเอง และภรรยาโชคดี
      
       สำหรับต้นกล้วยแปลก 3 ต้นนี้ ปลูกมาประมาณ 15 ปีแล้ว ตั้งแต่สร้างบ้านขึ้นมา ซึ่งตนก็ได้มีการประกอบพิธีโดยการจุดธูป ขอโชค ขอลาภ และขอหวย และได้บอกเจ้าที่เจ้าทางถ้าว่ามีโชคดีมีลาภก็จะเปลี่ยนให้ท่านมีที่อยู่ที่ดีกว่านี้ ซึ่งพอมีเด็กได้เลขแล้ว คือ เลข 98 ส่วนเด็กอีกคนบอก 92 ก็จะนำไปเสี่ยงโชคต่อไป

[nongnai]

มาแล้วครับสิบอันดับเลขขายดีแม่จำเนียรลองมองในสกอร์ดูนะครับว่าตัวไหนจะไหลมา

[nongnai]

แห่ซื้อหวยทะเบียนรถและเลขเครื่องบินนายกตู่ที่สุโขทัย

เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของไทยได้เดินทางลงพื้นที่สำรวจจสถานการณ์น้ำท่วมและเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดสุโขทัย
นับเป็นการเดินทางลงพื้นที่ครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี โดยในครั้งนี้นายกตู่ได้เดินทางโดยสารเครื่องบินกองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.)  
หมายเลขเครื่อง 1124 และหลังจากนั้นได้ใช้รถตู้อัลพาร์ค ทะเบียน กก 2222 สุโขทัย ในการลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัย

โดยบรรดาคอหวยชาวจังหวัดสุโขทัยต่างพากันแตกตื่นแห่ซื้อเลข 22 และ 11 24   เพราะเป็นเลขที่เกี่ยวข้องกับนายกคนใหม่ หลายคนคาดว่าน่าจะเป็นเลขเด็ดในงวดนี้อย่างแน่นอน