รีบวิจัยพิสูจน์รักษาเอดส์เร็วมาก ทำให้หยุดยาต้านได้

[station7080]

       ไทยเร่งศึกษาวิจัยโครงการ “เสิร์ช 010” หาผู้ติดเชื้อระยะเฉียบพลัน ให้ยาต้านไวรัสเร็ว พิสูจน์หาโอกาสหยุดยาต้านไวรัสได้ คาดหมายเริ่มโครงการ 2558


เร่งวิจัยพิสูจน์รักษาเอดส์เร็ว หยุดยาต้านได้


       พญ.นิตยา ภาณุภาค พึ่งพาพงษ์ นักวิจัยศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า การติดเชื้อเอชไอวีมีข้อมูลว่าหากตรวจพบเร็ว รับยาต้านไวรัสเร็ว ช่วยรักษาเอดส์ให้หายได้ ซึ่งปัจจุบันมีการทำวิจัยในหลายประเทศ ซึ่งประเทศไทยก็มีโครงการวิจัย “เสิร์ช 010 (search 010)” เพื่อหาผู้ติดเชื้อระยะเฉียบพลันให้ได้รับการรักษาเร็วที่สุด เพราะว่ามีข้อมูลจากหลายประเทศว่า หากพบการติดเชื้อภายใน 4 - 8 สัปดาห์ การให้ยาต้านไวรัสจะช่วยลดปริมาณเชื้อที่แฝงตัวในเซลล์ต่างๆ ได้ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่กินยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะตรวจไม่พบเชื้อในเลือด แต่ก็ยังตรวจพบเชื้อแฝงในเซลล์อวัยวะต่างๆ อยู่ ทำให้ไม่สามารถหยุดการกินยาต้านไวรัสได้
     
      พญ.นิตยา กล่าวว่า ส่วนผู้ที่ให้ยาต้านไวรัสอย่างโดยทันทีอาจมีแนวโน้ม รักษาเอดส์ให้หายได้ และสามารถหยุดยาต้านไวรัสได้ในภายภาคหน้า แต่ยังเป็นเพียงสมมติฐาน จึงมีการศึกษาโครงการต่อเนื่อง จากโครงการ ศึกษาวิจัยเสิร์ช 010 โดยให้อาสาสมัครจำนวน 200 - 220 คน ที่เข้าโครงการ ซึ่งมีทั้งผู้ที่เพิ่งติดเชื้อ และผู้ที่รับยาอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 5 ปี เข้าโครงการทดสอบการหยุดยาภายใต้การติดตามและควบคุมจากหมออย่างใกล้ชิด เพื่อพิสูจน์สมมติฐานในการหยุดยา ซึ่งเหตุสำคัญของโครงการนี้ คือ การค้นพบผู้ติดเชื้อระยะเฉียบพลันให้ได้รวดเร็ว และการหาโอกาสที่ผู้ป่วยจะสามารถหยุดยาได้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลาเท่าไร และต้องค้นหาเชื้อและให้ยาต้านไวรัสภายในระยะเวลาเท่าไร ซึ่งทั้งหมดต้องใช้เวลาในการศึกษา วิจัยในการรักษาเอดส์ และติดตามโดยแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ คาดว่า จะสามารถเริ่มโครงการได้ในช่วงต้นปี 2558
     
      “ปัจจุบันนี้ข้อมูลที่มีคือ การรับยาต้านไวรัสเร็วอาจจะช่วยเยียวยารักษาโรคเอดส์ได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ชัดเจนเพราะต้องใช้เวลาในการศึกษา ซึ่งผู้ป่วยที่รับยาต้านไวรัสมาอย่างต่อเนื่อง บางครั้งมีความเข้าใจผิดเมื่ออ่านพบการค้นคว้าวิจัยบางชิ้น ทำให้หยุดยาเอง ซึ่งถือเป็นความเสียโอกาสและผลเสียต่อผู้ป่วยเอง เพราะมักพบว่า แม้จะตรวจไม่พบเชื้อเอชไอวีในเลือด แต่เชื้อยังแฝงอยู่ในเซลล์ทำให้เมื่อหยุดยาต้านไวรัส เชื้อกลับขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ผู้ป่วยที่รับยาต้านไวรัสไม่ควรหยุดกินยาต้านโดยพลการ ส่วนผู้ที่คิดว่าตัวเองเสี่ยงได้รับเชื้อ ยังคงต้องตรวจเลือดให้เร็วที่สุดเพื่อรับยาต้านไวรัส เพราะอาจเป็นวิธียับยั้งเชื้อเข้าไปแฝงตัวในเซลล์ได้ และหากการวิจัยในอนาคตมีผลสำเร็จก็อาจนำไปสู่การหยุดยาได้” พญ.นิตยา กล่าว


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์