เรื่องราวที่กำลังจะถ่ายทอดต่อไปนี้ เป็นความจริงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่ง ที่ผ่านประสบการณ์อันเลวร้าย ถึงแม้ว่า จุดสิ้นสุดไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ แต่พวกเค้าก็ผ่านเหตุเหล่านี้มาได้ เริ่มเลยละกันนะครับ คนที่ถ่ายทอดเรื่องนี้ให้ฟัง เป็นเพื่อนซี้ผม ชื่อว่าคุณแตง แตงปฏิบัติหน้าที่เป็นพยาบาลอยู่ที่ โรงพยาบาลบ้าแห่งนึงย่านฝั่งธน เราทั้งสองมีโอกาสเจอ กันเดือนละหนึ่งครั้ง แต่ทุกคราวที่ได้พบแตง ๆ จะมีเรื่องเล่าแนวสยดสยองให้ผมฟังตลอด ครั้งล่าสุดแตงเล่าให้ฟังว่า แตงเครียดมากกับการปฏิบัติงานกับคนบ้า แตงต้องกินยานอนหลับทุกวัน ถึงจะนอนหลับ และถ้าไม่กินก็จะมีอาการ หลอนประสาท น่ากลัวมาก ๆ ถึงขั้นบางคืนที่หลับ กินยานอนหลับแล้ว ยังสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะว่าฝันร้าย เห็นภาพสยดสยองน่ากลัว ๆ ในฝันตลอด แตงบรรยายให้ฟังว่า แตงดูแลคนป่วยที่มีอาการทางจิตและสมองท่านนึง อาการของคนไข้ท่าน นี้มีอาการหลอนจากการใช้
ยานอนหลับเกินขนาด หลอนยังไงแตง ? ผมถามด้วยความอยากรู้ แตงตอบว่า อาการ เหมือน หูแว่ว ได้ยินใครร้องเรียกตลอด และก็มองเห็นใครก็ไม่รู้แล้วก็คุยอยู่คนเดียว แตงกลัวมาก แตงพูดด้วยเสียง สั่น ผมเห็นท่าทางและแววตาของแตง ผมเริ่มรู้สึกหวาดวิตกมาก เพราะแตงดูผิดปรกติไปมากจากที่เคยรู้จัก ผมเลย ถามแตงว่ามีอะไรให้ช่วยมั๊ย ? แตงเงียบไม่ตอบ แต่ที่ดวงตามีน้ำตาไหลออกมา ตอนนั้นผมตกใจมาก แตงเคยเป็น คนเข้มแข็ง ผมไม่เคยเห็นแตงร้องไห้ ในใจผมตอนนั้นเป็นห่วงมาก ๆ บอกกับตัวเองว่า จะไม่ทิ้งให้แตงต้องเจ็บปวด แบบนี้ ผมจึงเริ่มถามแตงให้ลึกขึ้นว่า แตงกลัวจะเป็นเหมือนผู้เจ็บป่วยที่กินยานอนหลับเกินขนาดคนนั้นใช่มั๊ย? ใช่ แตงตอบผมอย่างไม่ลังเล และแตงก็พูดว่า เป็นเวลาเดือนกว่า ๆ แล้วที่แตงต้องกินยานอนหลับเพิ่มปริมาณมาก ขึ้นจนตอนนี้ แตงต้องกินยานอนหลับบางวันก็ 3 เม็ด บางวันถึง 5 เม็ดถึงจะหลับ ซึ่งมันเป็นปริมาณที่มากขึ้นมาก และแตงก็เริ่มอาการหลอนบ้างแล้ว อาการหลอนมันเริ่มจาก แตงได้ยินเสียงผู้ชายร้องเรียกชื่อแตง ตลอดทั้งคืน เรียกเป็น ระยะ ๆ ตอนแรกก็เป็น ๆ หาย ๆ คือฟังแล้วก็พยายามฝืนให้หลับ แต่ก็ไม่หลับ เลยเพิ่มขนาดยานอนหลับ จาก 1 เม็ด เป็น 1 เม็ดครึ่ง ก็ไม่หลับ เลยเพิ่มยานอนหลับ เป็น 2 เม็ด ถึงจะหลับ แต่ก็หลับแบบทรมาทรกรรมมาก ฝันร้ายทุกคืน บางคืน ก็ฝันเห็นภาพตัวเองกลายเป็นคนไข้ซะเอง เห็นตัวเองพูดกับใครก็ไม่รู้ เดินไปเดินมาเหมือนคนบ้า บางคืนก็ฝันเห็นเงา ผู้ชายดำ ๆตัวใหญ่ มานั่งอยู่บนหัวเตียง ไม่ได้นั่งเฉย ๆ นั่งดึงผมที่อยู่บนหัวแตง ดึงแรงมาก ในฝันรู้สึกเจ็บ และกลัว มาก จนอาการล่าสุด เวลากลางวันแสก ๆ ขณะปฎิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยอยู่ แตงได้ยินเสียงคนเรียก เป็นเสียงเดิม และเสียง นั้นแตงได้ยินมาจาก เตียงผู้ป่วยในบริเวณแถวนั้น ทั้ง ๆที่ ผู้ป่วยทุกคนหลับ กันสนิททุกคน จนแตงต้องลุกหนีออก ไปนอกห้องผู้ป่วย ตอนเรียนพยาบาลมาก็มีวิชาที่เรียนมาไว้รับมือกับอาการเหล่านี้ แต่ถึงเวลาใช้ไม่ได้เลย แตงไม่ กล้าเล่าให้ใครฟัง แต่มีคุณหมอที่สนิทกันท่านนึง เราทำงานร่วมกันมาได้ 2 ปีกว่า ๆ แล้ว ด้วยความที่ท่านเป็นหมอ ท่านคงสังเกตเห็น พฤติกรรม ของแตงเปลี่ยนไป เลยเรียกแตงไปพบแล้วถามอาการ คุณหมอถามคำถามแรก น้ำตา แตงก็ไหลออกมาเลย คุณหมอถามว่าเครียดหรอทำมั๊ยพักนี้ดูผอมซูบจัง และหน้าตาก็ดำคล้ำด้วย มีอะไรกังวลเล่า ให้หมอฟังได้นะ ? เชื่อมั๊ยแตงดีใจมาก อยากจะระบายให้ใครฟังมานานแล้ว พอคุณหมอถามเลยไม่รีรอที่จะบอกเล่าให้ คุณหมอฟัง แตงบอกเล่าให้คุณหมอฟังตั้งแต่อาการเริ่มต้น หูเริ่มแว่ว จนอาการท้ายที่สุดที่เจอคือ ได้ยินเสียงคนเรียก ดังมาก และก็เห็นภาพหลอน ตัวเองเป็นผู้เจ็บป่วยซะเอง เหมือนในฝันเปี๊ยบ คุณหมอฟังแล้วเงียบไปครู่นึง แล้วก็ถามต่อว่า ตอน นี้คุณกินยานอนหลับมั๊ย และกินวันละกี่เม็ด ? แตงก็ตอบคุณหมอไปตรง ๆว่า ปัจจุบัน 5 เม็ด แล้วค่ะ ทานยานอนหลับ 5 เม็ด มาได้เกือบเดือนแล้วค่ะ คุณหมอก็นิ่งไปพักนึง แล้วคุณหมอก็พูดว่า ถ้าจะให้เข้าทำการรักษา คุณแตงจะมี อะไรขัดข้องมั๊ย หมอว่าอาการของคุณแตงต้องได้รับการบำบัดโดยทันที คราวนี้ถึงคราวแตงอึ้งบ้าง แตงเงียบไปพักนึง จนคุณหมอดูแล้วเราน่าจะเครียด คุณหมอเลยพูดแบบให้กำลังใจว่า ถ้าคุณแตงปรารถนาหายจากอาการนี้ หมอช่วยคุณ แตงได้ และหมอการันตีว่าคุณแตงจะหายจากอาการนี้ แตงเลยถามคุณหมอว่า มันเกิดจากอะไรคะคุณหมอ แตงถึงได้ เป็นอย่างนี้ คุณหมอตอบ หลัก ๆคือการกินยานอนหลับโดยไม่ได้อยู่ในการควบคุมของหมอ สองเกิดจากสภาพแวดล้อมการทำงาน ต้องอยุ่กับผู้ป่วยโรคประสาท ทำให้สมองจดจำภาพอาการของผู้เจ็บป่วยไว้ แล้วคุณแตงก็นำกลับไปคิดซ้ำ ๆ ทุกวัน จนเกิดการมโนภาพความกลัวขึ้นมา แต่เริ่มต้นหมอขอให้คุณแตงตรวจสุขภาพร่างกายโดยรวมก่อนนะครับ หลังจากนั้นหมอจะวินิฉัยอีกที่เพื่อวางแผนการบำบัดรักษา ต่อจากนั้นแตงก็เยียวยารักษากับคุณหมอ ตอนนี้ผ่านมาได้ เกือบ 2 อาทิตย์แล้ว คุณหมอ ให้เปลี่ยนยานอนหลับ และลดปริมาณยานอนหลับลง แต่แตงก็ยังนอนไม่ค่อยหลับอยู่ดี หูก็ยังมี แว่ว ๆบ้าง แต่น้อยลง ภาพหลอนที่เคยเห็นเสมอๆก็ลดลง ฝันร้ายที่เคยเป็นก็ฝันน้อยลง แต่อาการทั้งหมดจะหาย ไปคงต้องใช้เวลา ผมก็ได้แต่ให้กำลังใจให้แตงเพื่อนผมสู้ ๆ และผมก็บอกกับตัวเองว่าจะเพียรโทรหา แตง ให้ได้ทุกวัน แตงจะได้ไม่รู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว แล้วตอนอวสานของคุณแตงจะเป็นอย่างไร จะหายจากอาการหลอน ๆ จากการกิน ยานอนหลับ เกินขนาดหรือไม่ ผมจะมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังในคราวต่อไป ครับ