การรักษามะเร็งด้วยตัวเอง

[misthy198]

การรักษาโรคมะเร็งด้วยตนเอง
เมื่อสืบสวนพบว่าในร่างกายมีเซลล์มะเร็งปรากฏแล้ว ไม่ว่าอยู่ที่อวัยวะใดหรือระยะที่เท่าไหร่ก็ล้วนแต่สร้างความหวาดวิตกอย่างมหาศาลให้แก่ผู้ป่วยทั้งสิ้น ขบวนการรักษาโรคมะเร็งในสมัยนี้มีความก้าวหน้าและหลากหลาย เพิ่มโอกาสรอดให้แก่ผู้ป่วยได้มากขึ้น แต่เหนือสิ่งอื่นใดปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้ป่วยสามารถรอดพ้นจากโรคมะเร็งแบบหายขาดได้เลยนั้นย่อมหนีไม่พ้นการรักษามะเร็งด้วยตนเอง คือการดูแลตนเองในด้านต่างๆ นอกเหนือจากการรักษาของหมอ เพื่อเป็นการช่วยรักษามะเร็งอีกทางหนึ่ง
ลดปัจจัยเสี่ยง : วิธีแรกสุดที่ควรกระทำทันใดในการรักษามะเร็งด้วยตนเองคือการกำจัดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งออกไปจากชีวิตประจำวันให้ได้ เพราะหากเราต้องพบกับสิ่งเหล่านี้อย่างต่อเนื่องเซลล์มะเร็งก็จะได้รับการปลุกเร้าอยู่ตลอดเวลาโอกาสที่จะหายขาดนั้นจะน้อยลงไปมากทีเดียว
-  หากร่างกายยังรับเอาสิ่งส่งเสริมการเกิดมะเร็งอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน การรักษามะเร็งด้วยตนเองหรือด้วยแพทย์ก็อาจไม่ได้ผล
หยุดสูบบุหรี่และรับควันบุหรี่ ผู้ที่สูบบุหรี่หรือได้รับควันบุหรี่จะมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มปริมาณในร่างกายอย่างมาก
ควันบุรี่จัดเป็นสารก่อมะเร็งที่ร้ายกาจมาก ควรพยายามทุกทางเพื่อให้ตัวเองห่างจากควันบุหรี่จะช่วยในการรักษาโรคมะเร็งได้มากเลยทีเดียว
 -  เลี่ยงแดดให้มากที่สุด UVA และ UVB ในแสงแดดเป็นสารก่อมะเร็งที่รู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ในบ้านเราแสงแดดแรงจัดหากต้องใช้ชีวิตกลางแจ้งควรทาครีมกันแดดจนเป็นกิจวัตร
-  ต้องลดการทานไขมันอิ่มตัว การบริโภคอาหารที่มีไขมันมากเกินเหตุจำเป็นจะทำให้เกิด oxidative stressโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารมีไม่เพียงพอ จัดการกับวิถีการบริโภคให้พอควรด้วยการบริโภคผัก ผลไม้ 7 มื้อและไฟเบอร์มากกว่า 35 กรัมต่อวัน
 -  หมั่นเอาใจใส่สิ่งแวดล้อมที่บ้าน พยายามคัดเลือกกิจกรรมที่ทำให้คุณลดการเสี่ยงต่อการสัมผัสกับสารก่อมะเร็งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการใช้รังสี ยาฆ่าแมลง การอยู่ในสถานการณ์ที่มีฝุ่น ถ่านหิน หรือปัจจัยอื่นๆ
อาหารคือตัวช่วยสำคัญ : เป็นเรื่องค่อนข้างยากที่จะหลีกการเผชิญกับสารก่อมะเร็งและเคมีในสิ่งแวดล้อม เพราะแม้แต่ออกซิเจนที่เราหายใจเข้าไปก็เป็นต้นเหตุในการเกิด oxidative stress (คือการที่เซลล์ถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ เป็นสาเหตุของโรคแห่งความเสื่อมเรื้อรังมากกว่า 70 ประการ) ดังนั้นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการรักษาโรคมะเร็งด้วยตนเองก็คือการเติมสารต้านอนุมูลอิสระให้แก่ร่างกาย ด้วยโภชนา ผู้เชี่ยวชาญงานวิจัยโรคมะเร็ง ดร.แกลดี้ส์ บล็อก ได้ทำตามข้อเท็จจริงที่เป็นเหตุเป็นผลนี้ในขณะที่ทบทวนการศึกษากว่า 172 ชิ้นทั่วโลกในเรื่องของอาหารและมะเร็ง ดร.บล๊อค พบว่าผู้ที่กินผักและผลไม้ในระดับที่สูงที่สุด (ทรัพยากรหลักของสารต้านอนุมูลอิสระ) ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งทุกจำพวกได้ถึง 2-3 เท่าเปรียบเทียบกับผู้ที่กินผักและผลไม้ในระดับที่ต่ำที่สุด และงานวิจัยของดร.บรู๊ซ เอมส์ นักวิจัยโรคมะเร็งชั้นนำได้กล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์ในวารสารสมาคมทางการแพทย์แห่งอเมริกาว่า ผู้ที่บริโภคผักและผลไม้เป็นจำนวนน้อยที่สุดจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งยิ่งกว่าผู้ที่รับประทานผักและผลไม้มากกว่า 2 เท่า เพราะฉะนั้นหากต้องการรักษามะเร็งด้วยตนเองระบบคุ้มกันที่ดีสุดของร่างกายอีกอย่างหนึ่งก็คือการบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ จะไม่มียาประเภทไหนที่หมอจะสามารถสั่งให้คุณกินแล้วมีผลกับร่างกายดีเท่ากับการทานอาหารที่ดีซึ่งทำให้ร่างกายสามารถปกป้องดูแลตนเองได้ และอีกทางหนึ่งซึ่งคุณได้ยินมาหลายครั้งแล้วนั่นก็คือ “การเลือกอาหารเสริมที่มีคุณภาพสูง” ดังนั้นก้าวแรกของการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่มั่นคงคือการทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ไขมันต่ำ และเป็นผักกับผลไม้เสียเป็นส่วนใหญ่
เสริมเกราะป้องกันให้กับร่างกาย : การรักษามะเร็งด้วยตนเองให้หายขาด จำเป็นต้องกำจัดเซลล์มะเร็งแบบถอนรากถอนโคน ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเท่านั้นที่ทำได้ การรักษาโดยวิธีอื่นๆ อาจทำได้เพียงการกำจัดในส่วนที่มองเห็นได้เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วยังมีเซลล์มะเร็งที่หลงเหลืออยู่ในกระแสเลือดและรอเวลากลับมาก่อเกิดเป็นเนื้อร้ายได้ทุกขณะ ระบบภูมิคุ้มกันที่สมบูรณ์แข็งแรงจะทำหน้าที่กำจัดสิ่งแปลมปลอมดังกล่าวออกไปจากร่างกายอย่างหมดสิ้นและรวดเร็ว แต่ปัญหาของคนส่วนใหญ่คือระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมคุณภาพจากปัจจัยแวดล้อมต่าง ทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร ร่างกายจึงมีปัญหาหากระบบภูมิคุ้มกันไม่ดีพอการรักษามะเร็งจะทำได้ยากมากและอาจทำให้ร่างกายทรุดลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย อีกทางหนึ่งในการรักษามะเร็งด้วยตนเองคือการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ซึ่งสามารถทำได้หลายแนวทางไม่ว่าจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดอย่างการทานอาหารหรืออาหารอาหารเสริมที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน, การออกกำลัง ,การรักษาอารมณ์ให้สดใสร่าเริงอยู่เสมอ เป็นต้น
รายการด้านล่างเกี่ยวกับกับการใช้อาหารเสริมในผู้ป่วยที่ถูกวินิจฉัยผู้ป่วยที่มีก้อนเนื้อก่อนการพัฒนาเป็นเนื้อร้าย
อาหารเสริมถือเป็นตัวช่วยที่ดีในการรักษามะเร็งด้วยตนเอง มาดูกันว่าอาหารเสริมช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้นอย่างใดบ้าง
1. การศึกษาในอินเดียได้ใช้วิตามินเอและเบต้า-แคโรทีนนักวิจัยได้สังเกตุการพัฒนาของโรค leukoplakia
(ก้อนเนื้อร้าย)กับกลุ่มนี้พบว่า สามารถหน่วงการเกิดโรคได้มากกว่ากลุ่มที่ไม่กินเป็นอัตรา 10 เท่า
2. มีการศึกษานำร่องด้วยการใช้เบต้า - แคโรทีน ซึ่งผลออกมาพบว่าเซลล์ที่เป็นโรค leukoplakia (ก้อนเนื้อร้าย) สามารถกลับคืนเป็นเซลล์ปกติได้ 7%
3. การศึกษาแบบติดต่อกันในสหรัฐฯ พบว่า ผู้ที่ได้รับเบต้า - แคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี ดีขึ้น 60% เซลล์ที่มีโอกาสพัฒนาเป็นเซลล์มะเร็งได้รับการพัฒนาจนกลับเป็นเซลล์ปกติ
4. การศึกษาแบบต่อเนื่องในสหรัฐฯ ผู้ป่วยที่ได้รับแต่เพียงเบต้า- แคโรทีนมีอาการดีขึ้น 60%
5. มีการทดสอบกับหนูแฮมเตอร์ตัวผู้ เรื่องของมะเร็งในช่องปากซึ่งมีการใช้เบต้า - แคโรทีน วิตามินอี กลูต้าไธโอน และ วิตามินซี มีพัฒนาการที่มองเห็นได้ชัดเจนในแต่ละกลุ่ม โดยกลุ่มที่ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระแบบผสมผสานได้ผลดีที่สุดนี่ไม่ใช่เป็นผลสรุปจากการใช้สารต้านอนูมูลอิสระในปริมาณมาก แต่เป็นผลลัพธ์จากผลสำเร็จของการที่สารอาหารทำงานร่วมกัน การรักษาโรคมะเร็งให้ได้ผลดีที่สุด ย่อมต้องอาศัยหลากหลายแนวประกอบกัน ไม่ใช่พึ่งพาเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง สิ่งสำคัญที่สุดคือสิ่งที่เราทำให้กับร่างกายได้ด้วยตัวเอง การรักษามะเร็งด้วยตนเองไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องตั้งใจการรักษาขนานอื่น แต่ให้รักษาตัวเองเพียงอย่างเดียว การรักษามะเร็งด้วยตนเองในที่นี้หมายความถึงสิ่งที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการรักษาและการป้องกันการกลับมาเป็นมะเร็งอีกครั้ง