16-5-58

[nongnai]

ข่าวแรกเลยแจ้งให้เตรียมรับมือกับเลขของ รชต.
ซึ่งเป็นที่ฮือฮามาพักหนึ่งจนเจ้ามือต้องอั้นเลขสายนี้
งวดวันที่ 2-5-58 กลับมาเข้าอีก คาดว่างวดนี้คงมีคนแห่ตามแน่นอน


 
 

มาแล้วน่ะครับก็พิจารณาเอาล่ะกันว่าจะสู้หรือจะถอย

[nongnai]

สิ้นพระสายปฏิบัติ ‘พระอาจารย์ธรรมรัติ’ เจ้าอาวาสวัดชากใหญ่ จ.จันทบุรี



เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระอาจารย์ธรรมรัติ ธัมมรโต เจ้าอาวาสวัดชากใหญ่ ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ได้มรณภาพลงอย่างสงบ ด้วยโรคชรา ที่โรงพยาบาลสิริเวช จ.จันทบุรี คืนวันที่ 8 พ.ค.2558 เวลา 02.45 น. โดยมีคณะศิษย์คอยที่เฝ้าดูแลอาการอาพาธและคณะศิษย์ทั่วไปเดินทางมาที่โรงพยาบาลสิริเวช เพื่อกราบศพพระอาจารย์ธรรมรัติ แสดงความอาลัยต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของพระอาจารย์ธรรมรัติ

 ก่อนหน้านี้ สุขภาพขอพระอาจารย์ธรรมรัติไม่แข็งแรงนัก มีอาการอาพาธ ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล คณะศิษย์ผู้ใกล้ชิดจัดให้มีเจ้าหน้าที่พยาบาลและอุปัฏฐากคอยดูแลอย่างใกล้ชิด กระทั่งพระอาจารย์ธรรมรัติ หมดสติลงและมรณภาพในที่สุด ไม่อาจยื้อชีวิตพระอาจารย์ธรรมรัติเอาไว้ได้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด

 นายสนั่น วีระธรรม น้องชายพระอาจารย์ธรรมรัติ เปิดเผยว่า ตนเป็นน้องชาย มีฐานะรับใช้อุปัฏฐาก คอยนอนเฝ้าท่านทุกคืน แต่ด้วยสุขภาพท่านไม่แข็งแรง เนื่องจากท่านมีการป่วยเกี่ยวกับการนั่นสมาธินานๆ ทำให้ท่านต้องอั้นปัสสาวะ จนเป็นเหตุให้ไตไม่ทำงาน กระทั่งในคืนวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนนอนเฝ้าท่านในกุฏิเป็นปกติ แต่ช่วงกลางดึก พระอาจารย์ธรรมรัติ หมดสติลง คณะแพทย์และเจ้าหน้าที่พยาบาล ทำการปั๊มหัวใจช่วยยื้อชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่ไม่อาจยื้อชีวิตท่านเอาไว้ได้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด

 ทั้งนี้ คณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์วัดชากใหญ่ กำหนดจัดงานบำเพ็ญกุศลศพพระอธิการธรรมรัติ ที่วัดชากใหญ่ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ระหว่างวันที่ 9-16 พ.ค.2558 และในวันที่ 17 พ.ค. เวลา 13.00 น. จะบรรจุศพในโลงแก้วเป็นเวลา 100 วัน

 สำหรับประวัติ พระอาจารย์ธรรมรัติ เกิดในครอบครัววีระธรรม เป็นชาว ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี อายุ 20 ปี เข้ารับราชการเป็นทหารเกณฑ์ สังกัดกองทัพเรือ ถึงปี พ.ศ.2498 ภายหลังปลดประจำการ มีโอกาสพบพระอาจารย์กงมา จิรปุญโญ ที่ จ.จันทบุรี จึงติดตามพระอาจารย์กงมา ไปที่วัดธรรมเจดีย์ ต.ตองโขน อ.เมือง จ.สกลนคร ได้นุ่งห่มขาวถือปฏิบัติธรรม พ.ศ.2500 พบพระอาจารย์ลี ธัมมธโร และเข้าอุปสมบาท ที่วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ในกาลต่อมา พระอาจารย์ธรรมรัติ จึงเป็นพระป่านักปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง ทำให้มีพุทธศาสนิกชนให้ความเลื่อมใสศรัทธา จนวาระสุดท้าย

[nongnai]

มาแล้วครับสิบอันดับเลขขายดีแม่จำเนียร ดูว่าตัวไหนจะไหลมา

[nongnai]

หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม พระสายหลวงปู่มั่น เกจิดังจังหวัดบึงกาฬ ละสังขารแล้ว



เมื่อเวลา 18.59 น. วันที่ 12 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม หรือพระญาณสิทธาจารย์ (วิ.) วัดสามัคคีอุปถัมภ์หรือภูกระแต ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ พระเกจิดังของภาคอีสานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตะเถระ ได้ละสังขารแล้วที่กุฎีเบอร์ 15 ภายในวัดภูกระแต  ซึ่งหลวงปู่ทองพูลได้อาพาธจากภาวะปอดอักเสบเมื่อเดือนมกราคม 2558 จากนั้นก็ได้เข้ารักษาตัวที่ ร.พ.บึงกาฬ และ ร.พ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เข้าออกอยู่หลายครั้งและครั้งสุดท้ายเข้าไปรักษาตัวอยู่ที่ ร.พ.บึงกาฬ ด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด อาการหลวงปู่ทองพูลเริ่มไม่ดีขึ้น ท่านจึงได้ปฏิเสธการรักษาและขอกลับมาพักที่วัดภูกระแต  คณะลูกศิษย์จึงได้ประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อรับหลวงปู่กลับวัดในวันที่ 4 พ.ค.58  ต่อมาอาการอาพาธได้เริ่มหนักขึ้นจนถึงเมื่อเวลา 18.59 น. ท่านได้ละสังขารจากโลกนี้ไป

ต่อมาหลวงพ่อจรัส ธัมมธโร ประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมกับนายพงษ์ศักดิ์  ปรีชาวิทย์ ผวจ.บึงกาฬ ประธานฝ่ายฆราวาสและคณะลูกศิษย์ได้ประชุมหารือกันว่าควรนำร่างหลวงปู่ลงมาจากกุฎีเบอร์ 15 มาไว้ที่ศาลาหลังใหญ่เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ได้กราบคารวะ และในวันพรุ่งนี้เวลาประมาณ 10.00 น.จะมีพิธีรดน้ำศพ โดยไม่ได้ขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นวันสำคัญคือเป็นวันพืชมงคล  ส่วนจะมีพิธีจัดการอย่างไรต่อไปนั้นมติที่ประชุมว่าให้เก็บสังขารหลวงปู่ทองพูลไว้อย่างนี้ไปก่อนจนถึงวันออกพรรษาแล้วค่อยมาประชุมตกลงกันใหม่ว่าจะดำเนินการเช่นไรต่อไป เนื่องจากคณะลูกศิษย์ทั้งญาติโยมยังมากันไม่ครบหรือยังไม่รับรู้การละสังขารของหลวงปู่อย่างทั่วถึง

ส่วนประวัติหลวงปู่ทองพูล สิริกาโมหรือพระญาณสิทธาจารย์(วิ.)คร่าวๆ  ท่านเป็นพระกรรมฐานแห่งกองทัพธรรมสายท่านอาจารย์มั่น ภูริทัตตะเถระ โดยพระเถระรุ่นเดียวกัน มีพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ หลวงปู่คำตัน พระครูอุดมศีลวัฒน์ วัดป่าสถิตย์ธรรมมาราม พระครูปัญญาวรากร วัดป่าวิเวกพัฒนาราม โดยเฉพาะท่านอาจารย์ทองพูลกับท่านอาจารย์จวน ทั้ง 2 องค์ มีความสนิทสนมกันมาก ท่านอาจารย์ทองพูล เดิมชื่อหนูพูล นามสกุล เอนไชย เกิดที่บ้านเดื่อศรีคันไชย อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร บิดาชื่อนายเคน มารดาชื่อนางสุภี เป็นบุตรคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 7คน ตั้งแต่วัยเด็กท่านอาจารย์ทองพูลมีลักษณะนิสัยสุขุมเยือกเย็น พูดน้อย อ่อนน้อมถ่อมตน อยู่ในโอวาทของพ่อแม่ญาติพี่น้อง มีจิตเมตตา ท่านอาจารย์ได้บรรพชาอุปสมบทครั้งแรก เป็นพระสงฆ์ในฝ่ายมหานิกายที่วัดท่าเดื่อ โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ พระครูนรสีสาสน์ธำรง รองเจ้าคณะอำเภอวานรนิวาส การบวชครั้งนั้นเป็นการบวชในงานบุญประเพณีของผู้ที่ท่านอาจารย์คุ้นเคย และต่อมาท่านอาจารย์ทองพูลได้พบกับพระอาจารย์สีโห เขมโก ซึ่งเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์หลวงปู่มั่น และเป็นพระเถระรุ่นเดียวกับหลวงปู่เทสก์, หลวงปู่ขาว, หลวงปู่ฝั้น โดยท่านอาจารย์ทองพูลได้เปลี่ยนนิกายใหม่เป็นฝ่ายธรรมยุต โดยมีพระอาจารย์เจดีย์ (จูม พนฺธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสมุห์สวัสดฺ เป็นพระกรรมวาจาจาร มีฉายาว่า สิริกาโม เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2495 นับตั้งแต่การอุปสมบท ท่านอาจาย์ทองพูล ได้ตั้งจิตแน่วแน่ในการปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และถึงขั้นที่เรียกได้ว่ามอบกายถวายชีวิต โดยการออกธุดงค์หาสถานที่วิเวกเพื่อเร่งความเพียร บำเพ็ญภาวนา เพียงพรรษาแรกท่านอาจารย์ได้ถือเนสัชชิธุดงค์ คือการไม่นอน ไม่ยอมให้หลังแตะกับพื้นตลอดพรรษาและอดอาหารควบคู่กันไป ท่านอาจารย์ทองพูลยังป่วยอาพาธเป็นไข้มาลาเรียอย่างหนัก แต่ท่านอาศัยธรรมโอสถขันติธรรมเพ่งเวทนาที่เกิดขึ้นจนไข้มาลาเรียหายไปเอง  หลวงปู่ทองพูล  สิริกาโม สิริรวมอายุได้ 83 ปี 1 เดือน  19 วัน พรรษา 63

[nongnai]

โปรดใช้วิจารณาน ครับ