ให้เข้ากันมากขึ้นกันครับ เพื่อที่เพื่อนพ้องๆ จะได้เห็นถึงความสลักสำคัญของเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้ครับและจะได้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับเพื่อน ๆ ครับ เครื่องปรับอากาศ
เรื่องของกาทำความเย็นนั้น ยังไงก็หนีไม่พ้นแอร์ เพราะว่าเป็นสิ่งอำนวยความสบายที่มีกันมาอย่างยาวนาน ในสมัยก่อนนั้นอาจจะมีเฉพาะบ้านของคนที่มีฐานะ แต่ในช่วงปัจจุบันนั้น ทุกที่พักอาศัยสามารถมีได้ เพราะสนนราคานั้นไม่ได้แพงมากนัก ซึ่งในปัจจุบันนี้ สามารถชำระหรือผ่อนจ่ายได้อีกด้วย จึงทำให้ เป็นที่นิยมมากในยุคนี้ เรามาทำความรู้จักมักคุ้นกันครับ
เครื่องปรับอากาศ เครื่องปรับอากาศ
ด้วยเหตุว่าหมายถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำให้อากาศของบ้านเรามีภูมิอากาศที่หนาวเย็นขึ้น และก็คงไม่แปลกที่หลาย ๆ บุคคลจะคัดเลือกที่จะจัดตั้งแอร์ไว้ในที่อยู่อาศัยเพราะช่วยปรับอุณหภูมิให้เย็นสบายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวของข้าพเจ้าพูดได้เลยว่า ขาดแคลนแอร์ไม่ได้ เนื่องมาจากอากาศมันร้อนมากวัน ๆ หนึ่ง อาบน้ำอาบท่าไป ออกมาสักพักเดียว ก็ตัวชุ่มเหงื่ออีกแล้ว เรียกได้ว่า กลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันของหลาย ๆ คนเลยที เพราะฉะนั้น วันนี้ เราจะมาทำความรู้จักมักคุ้นไอเจ้า เครื่องปรับอากาศ
ที่ตั้งไว้ เช่น 8,000 BTU พอเหมาะสำหรับห้องขนาด 14 ตารางเมตร หรือ12,000 BTU เหมาะสำหรับห้องหับขนาด 20 ตารางเมตร ฯลฯซึ่งมันคือหน่วยวัดการดึงความร้อนออกจากห้องต่อชั่วโมง (อันนี้เข้าใจง่ายดี ไม่ต้องลึกซึ้งมาก) โดยที่เราต้องคำนึงด้วยว่า ห้องของเรานั้นมีความกว้างขวางมากแค่ไหน หากห้องเราไม่ได้ใหญ่มากนัก ก็ไม่จำเป็นจะต้องเอา BTU เยอะ ๆ นะครับ เนื่องจากเปลืองเงินโดยใช้เหตุ เราควรคำนึงถึงความสมควรต่าง ๆ ด้วยครับ โดยส่วนประกอบอุปกรณ์เครื่องแอร์หรือ เครื่องปรับอากาศ
ในปัจจุบันนี้ ลมฟ้าอากาศบ้านเรา บ้านเมืองของเราค่อนข้างร้อนมากและยิ่งในเดือนเมษายนนี้ ยิ่งร้อนมากๆ กว่าทุกปี โดยที่อุณหภูมิพลุ่งสูงแตะที่ 40 องศา เลยทีเดียว แค่อากาศในเวลาเช้าก็ถือได้ว่าร้อนมากมายแล้ว และสิ่งที่จะมาช่วยคลายอากาศที่ร้อนจัดได้นั้นก็เป็น เครื่องปรับอากาศ
นั้นจะมีส่วนประกอบดังนี้ครับ แผงท่อความเย็น,คอมเพรสเซอร์,หน้ากากเครื่องที่มีแผ่นเกร็ดแพร่ความเย็น,แผงท่อระบายความร้อน,วัสดุอุปกรณ์สำหรับเปิด-ปิด เครื่อง,พัดลมส่งความเย็น,พัดลมถ่ายเทความร้อน,อุปกรณ์ป้อนสารทำความเย็นฉ่ำ,แผ่นกรองอากาศ โดยทุกอย่างจะทำงานประสม และสร้างอากาศที่เย็นขึ้นให้กับเพื่อนๆ ได้ หากสิ่งหนึ่งสิ่งใดเสียหรือพัง มันก็จะทำให้แอร์คอนดิชันของเราไม่เย็นครับ โดยต่อไปเราจะมาพูดถึงชนิดของแอร์ที่เราเคยเห็นกัน ว่ามีทั้งสิ้นกี่แบบกี่ประเภทนะครับ เครื่องปรับอากาศ
ชนิดที่ 1. แบบตั้งหรือแขวน โดยแอร์ประเภทนี้ จะเหมาะกับเพื่อน ๆ ที่ปรารถนาอยากได้แอร์ตั้งพื้นหรือแขวนห้อยลงมาจากเพดาน จะเหมาะสำหรับบริเวณ ที่ค่อนข้างจะกว้างอยู่พอประมาณ แต่ห้องเล็กก็สามารถติดตั้งได้ เช่นห้องนอน ร้านอาหาร สำนักงานต่าง ๆ ฯลฯแต่ถ้าสำหรับตัวผมแล้ว ผมมองดูว่า เหมาะกับร้านอาหารใหญ่ ๆ หรือสำนักงานมากกว่าครับ เครื่องปรับอากาศ
ชนิดที่ 2. แบบติดฝาผนัง แอร์ประเภทนี้ จะเหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่มีห้องขนาดเล็ก พื้นที่เล็กเช่นพวกห้องนอน ห้องรับแขก หรือไม่ก็ห้องนั่งเล่น ซะมากกว่าครับ เพราะด้วยขนาดที่กะทัดรัด จ เครื่องปรับอากาศ
มักจะเปิดกันได้แทบจะทั้งวันทั้งคืน ซึ่งเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ภายในบ้านอย่างหนึ่ง ที่กินไฟมากที่สุด โดยปัจจุบัน ก็มีการพัฒนาให้กินไฟลดลง และคุณสมบัติต่าง ๆ ก็พัฒนาขึ้นจากเมื่อก่อนมากยิ่งขึ้น โดยที่ส่วนประกอบของแอร์นั้น จะมีหลัก ๆ ที่เราเห็นๆ กันก็จะมี 2 ชิ้นด้วย คือ 1.ตัวเครื่องแอร์ที่ให้ความเย็นอยู่ข้างในห้อง และ 2.จะมีตัวคอมเพรสเซอร์แอร์อยู่นอกบ้านนะครับ โดยที่คอมเพรสเซอร์นั้นจะทำหน้าที่ ที่สำคัญมาก และเราจะมองดูได้ว่า ถ้าหากคอมไม่มีลมร้อนออกมา หรือคอมเพรสเซอร์ไม่ทำหน้าที่ จะทำให้ตัวเครื่องด้านใน ไม่เกิดความเย็นด้วย เช่นกัน โดยสิ่งที่เราควรจะรู้ก็คือ ขนาดของแอร์ที่เราจะซื้อหานะครับ เพราะแอร์นั้น มีหลายขนาดให้เลือกซึ่งขึ้นอยู่กับความกว้างของห้องที่จะจัดตั้งด้วย หน่วยของมันคือ BTU มันคือหน่วยของ เครื่องปรับอากาศ
หมายความว่าอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะทำให้ที่อยู่อาศัยหรือห้องของคุณมีอุณหภูมิลดน้อยลงหรือเย็นลงนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขก ครัว ก็สามารถติดได้ เพื่อช่วยทำให้อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อน และยิ่งในทุกวันนี้ ได้มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอีกมาก ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ให้เหมาะสมกับยุคนี้ ที่ผู้คนหันมาป้องกันตัวเองกันมากขึ้น คือ จะมีการกรองอากาศ ให้อากาศปราศจากฝุ่นละออง หรือ เชื้อโรค เชื้อรา ต่าง ๆ หรือไม่ก็จะมีการพัฒนา ให้มีการประหยัดกระแสไฟเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากแอร์หรือ เครื่องปรับอากาศ
Dilber MC Theme by HarzeM