ในอดีตกัน ลูกโป่ง
ลูกโป่ง
อัดแก๊ส' แบบสวยๆงามๆ มีทั้งอันเล็กอันใหญ่ แบบอลังการงานสร้างก็มี ถือได้ว่าเอามาประดับบารมีของผู้สำเร็จการศึกษาเลยก็ว่าได้ แต่ราคานี่แพงใช่เล่น ลูกน้อยๆมูลค่าก็ไม่ได้น้อยตามลูกเลย ไหนๆเห็นว่าช่วงนี้ป๊อปปูล่ากันจัง เราจึงขอเกาะกระแสไปด้วย รู้หรือเปล่าว่าจะลูกบอลลูนสีๆเนี่ย มีสตอรี่ไม่น้อยเลยนะ ใครๆหลายคนต้องเคยสัมผัสกับมันแน่ๆ ยิ่งช่วงระยะเวลาเด็กๆเชื่อว่าเด็กจำนวนมากเพลิดเพลินไปกับของเด็กเล่นชิ้นนี้ไม่ใช่น้อย วันนี้เราจะพามาย้อนรอยไปรู้จัก ลูกโป่ง
นั้นถือว่าเป็นของเล่นไฮโซเลยก็ว่าได้ในช่วงระยะเวลาที่ประเทศไทยนำเข้ามาแรกๆ ช่วงยุคสมัยรัชกาลที่5 เป็นช่วงที่ไทยเริ่มมีความสัมพันธ์อันดีงามกับยุโรปจึงเริ่มรับจารีตรวมถึงมีการค้าขายกันทำให้ ลูกโป่ง
คือสิ่งของที่ทำมาจากยาง น้ำยาง ผ้าในล่อน หรือพอลีคลอโรพรีน นำมาทำเป็นรูปแบบต่างๆที่สามารถยืดหยุ่นและพองตัวโดย โดยใส่แก๊สต่างๆเข้าไป (ถ้าเราเป่าเองด้วยปากก็จะเป็นการบรรจุก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปจากลมหายใจออกของเรานั่นเอง) ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยก่อนโดยการทดลองทางวิทยาศาสตร์ คนที่สร้างสรรค์ได้สำเร็จเป็นคนแรกคือ ไมเคิล ฟาราเดย์ นักวิทยาศาสตร์มีชื่อเสียงจากประเทศอังกฤษ แต่ว่าแต่ก่อนนี้ กาลิเลโอ ก็เคยทดสอบประดิษฐ์เช่นกัน โดยนำกระเพาะหมู หรือกระเพาะปัสสาวะของสัตว์ที่แห้งแล้วมาทำการทดลอง มีจุดมุ่งหมายไว้เพื่อประดับตกแต่งสถานที่และใช้ในงานเทศกาลต่างๆ สำหรับเด็กๆ ก็จะให้อรรถประโยชน์ในด้านความเพลิดเพลิน และการช่วยสร้างทักษะในการคิดคิดฝัน ขึ้นอยู่กับการนำมาบูรณาการและข้อแนะนำของแต่ละครอบครัว จริงๆเมื่อก่อนนี้ ลูกโป่ง
เข้ามาแพร่ขยายในสมัยนั้น โดยส่วนมากจะใช้ในงานฉลองเทศกาลต่างๆ ใช้เพื่อประดับตกแต่งสถานที่ รวมถึงใช้ในพิธีเปิดงาน แขวงป้ายต่างๆ แต่เนื่องจากเป็นสินค้านำเข้าทำให้มีราคาค่อนข้างแพง เรียกได้ว่าต้องมีฐานะที่ดีจึงจะสามารถซื้อมาเล่นได้ แต่ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้อย่างง่ายได้ เพราะไทยมีการผลิตและจำหน่ายกันอย่างแพร่หลายไม่ต้องนำเข้าอีกแล้ว เมื่อต้นทุนลด ราคาก็ลด จึงกลายเป็นของเล่นที่วัยเด็กเล็กแทบจะทุกคนเคยผ่านกันมาแล้วทั้งนั้น เนื่องจากหาซื้อง่ายและราคาก็ถูกอีกด้วย ลูกโป่ง
ทุกวันนี้เจ้าของเล่นบอลลูนหลากสีนี้มีหลากหลายประเภทมากๆ ราคาก็แตกต่างกันไป รวมถึงความไม่เป็นอันตรายในการเล่นด้วยก็เช่นกัน ผู้ปกครองที่จะใช้ของเล่นชนิดนี้มาเป็นเพื่อนเล่นกับบุตรหลานจึงควรที่จะทำความรู้จักมักคุ้นกับประเภทของมันด้วยว่าแต่ละชนิดเหมาะกับการเล่นแบบไหน เหมาะกับลูกหลานของท่านหรือไม่ และมีความไม่เป็นอันตรายหรือเปล่า ลูกโป่ง
1. ลูกโป่ง
ยาง ทำมาจากยาง น้ำยาง เป็นแบบออริจินัลแรกเริ่มเลยทีเดียว ใช้การเป่าลมหรืออัดแก๊สเข้าไปเพื่อให้ลอยตัวได้ ถ้าแบบเป่าลมด้วยปากมักจะไม่อันตราย ซื้อได้จากการขายเป็นถุงๆให้เด็กเล็กซื้อไปเป่าลมด้วยปากกันเอาเอง แต่ถ้าว่าเป็นแบบสำเร็จรูปจำนวนมากมักจะลอยในอากาศได้ โดยใช้การอัดแก๊สเข้าไป สามารถอัดแก๊สได้ 2 ประเภทคือ ไฮโดรเจนและฮีเลียม ถ้าไฮโดรเจนจะค่อนข้างอันตราย เนื่องจากเป็นก๊าซไวไฟ สามารถติดไฟและแผ่ขยายเป็นเชื้อเพลิงได้ง่าย ก่อให้เกิดอันตรายได้ และยังสามารถซึมออกจากผิวยางได้ด้วย แต่จะมีสนนราคาไม่แพงมาก ลูกโป่ง
ส่วนฮีเลียมนั้นจะปลอดภัยกว่าเนื่องจากเป็นก๊าซเฉื่อย ไม่ไวไฟ แต่มีราคาค่อนข้างจะแพง พวกพ่อค้าผู้ขายจึงนิยมไฮโดรเจนมากกว่าเพื่อประหยัดต้นทุน ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคกำหนดให้เจ้าบอลลูนอัดแก๊สไฮโดรเจนกลายเป็นของซื้อของขายที่ควบคุมฉลาก ผู้จำหน่ายต้องติดคำเตือนเกี่ยวกับการระมัดระวังเรื่องประกายไฟและความร้อน เพื่อปกป้องรักษาการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กๆที่มาซื้อไปเล่นเพราะว่าเด็กๆรวมถึงผู้ใหญ่บางคนไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำว่าการที่มันลอยได้นั้นเกิดจากการใช้ก๊าซชนิดได้ แล้วก๊าซชนิดนี้ส่งผลอย่างใด ดังนั้นจึงการติดป้ายกล่าวเตือนเอาไว้จะช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ไม่มากก็น้อย แต่ถึงอย่างใดก็ขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณของพ่อค้
ลูกโป่ง ลูกโป่ง
เวลานี้มหาวิทยาลัยมากมายพากันมีงานพิธีรับปริญญามากมายมากๆ เรียกได้ว่าเป็นงานเทศกาลรับปริญญาเลยก็ว่าได้ นอกเหนือจากผู้สำเร็จการศึกษาที่ใจเต้นกับงานรับปริญญาของตัวเองแล้วคนที่ตื่นเต้นไม่แพ้กันนั่นก็คือเหล่าบรรดาผองเพื่อนฝูงของผู้สำเร็จการศึกษานั่นเอง ไม่ว่าจะหาชุดสวยเตรียมตัวไปงานหรือกระทั่งของรางวัลที่จะให้บัณฑิตก็ตาม ก็ของฝากมีมากหลายประเภททั้งแบบเตรียมมาเองหรือที่จำหน่ายหน้างานพิธีเรียกว่าเลือกสรรกันไม่ถูกเลยทีเดียวทั้งสนนราคาถูกและราคาแพงปะปนไปสวยๆทั้งนั้น แต่ในนาทีนี้ของขวัญกิ๊บเก๋ที่ได้รับความนิยมสุดๆ เรียกได้ว่าขายกันแทบจะทุกร้านค้าเลยก็ว่าได้คงหนีไม่พ้น ' ลูกโป่ง