1-3-59

[nongnai]

สิ้นพระเกจิดังอีสาน “หลวงปู่โส กัสสโป” อายุ 101 ปี พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น



เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงปู่พระมหาโส กสัสโป ศิษย์สายธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตตะ และเป็นศิษย์ผู้พี่ของหลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต พระเกจิดังของภาคอีสาน ได้ละสังขารแล้วที่กุฏิวัดป่าคำแคนเหนือ หมู่ 2 ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ด้วยอาการชราภาพ เมื่อเวลา 12.20 น.ของวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา สิริอายุ 100 ปี 3 เดือน 8 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในวัดป่าคำแคนเหนือ มีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ศิษยานุศิษย์ ที่เคารพนับถือหลวงปู้พากันเดินทางมากราบไหว้สรีระสังขารหลวงปู่ และขอเช่าวัตถุมงคลของหลวงปู่โส กัสสโปอย่างเนื่องแน่น ซึ่งจะมีการเคลื่อนย้ายสรีระสังขารหลวงปู่โส จากกุฏิของท่านมาที่ศาลาเปรียญกัสสโปนุสรณ์ ภายในวัดป่าคำแคนเหนือ เพื่อทำพิธีถวายน้ำหลวงอาบศพ "หลวงปู่โส กัสสโป”
นอกจากนี้ ภายในวัดป่าคำแคนเหนือมีศิษยานุศิษย์นำอาหาร เช่น ก๊วยเตี๋ยว ข้าวเหนียว หมูปิ้งส้มตำ ข้าวจี่ กาแฟ น้ำดื่ม มาตั้งเป็นโรงทานเพื่อรองรับประชาชนที่เคารพนับถือหลวงปู่โสมากราบ มารดน้ำและกราบศพท่าน ได้มารับประทานอาหารจากโรงทานได้ตลอดเวลา
พระสมุห์ สุภชัย เทวสุโภ อายุ 37 ปี พระอุปฐากหลวงปู่โส กัสสโป เปิดเผยว่า หลังจากทางวัดและลูกศิษย์หลวงปู่โส จัดงานครบรอบวัดเกิด 100 ปี ให้กับท่าน เมื่อ 18 พ.ย. 2558 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือนได้ป่วยเพราะปอดติดเชื้อ จึงได้นำไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมาได้ออกจาก รพ.ศรีนครินทร์ฯ มาพักรักษาตัวอยู่ในกุฏิของท่าน กระทั่งเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา เกิดอาการเสลดติดคอ หายใจไม่ออก กระทั่งเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 16 ก.พ. ได้นอนหลับเมื่อคณะแพทย์จาก รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น มาตรวจก็บอกว่าหลวงปู่โสได้ละสังขารไปอย่างสงบ โดยนอนหลับตาและมีรอยยิ้มเล็กน้อย โดยแพทย์บอกว่าหลวงปู่โสชราภาพ
พระสมุห์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่หลวงปู่โสมรณะภาพไปแล้ว ทางวัดป่าคำแคนเหนือ พร้อมด้วยศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่โส ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนที่เคารพศรัทธาหลวงปู่โสได้มากราบไหว้และเคารพศพหลวงปู่โสได้ตลอดเวลา ที่ศาลาการเปรียญกัสสโปนุสรณ์ โดยสรีระสังขารของท่านจะอยู่ในโรงทึบที่ทำด้วยไม้ประดู่จากธรรมชาติ โดยตั้งศพที่ศาลาการเปรียญฯ มีสวดอภิธรรมทุกวันจนครบ 1 เดือน จากนั้นให้มีสวดเฉพาะวันพระ

 นอกจากนี้ มีบำเพ็ญกุศลใหญ่ถวายหลวงปู่ 7 วัน 50 วัน 100 วัน จนกว่าจะได้ก่อสร้าง “เจดีย์บูรพาจารย์ วัดป่าคำแคนเหนือ” เสร็จเรียบร้อยก็จะมีการประชุมพิธีฌาปนกิจของหลวงปู่โสตามที่คณะกรรมการกำหนดขึ้นมา ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นวันไหน เดือนอะไร แต่เป็นปี 2560 แน่นอน

 นายธวัช แตรยาว อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ 2 บ้านคำแคนเหนือ ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ผู้ศรัทธาหลวงปู่โสมากที่สุด เพราะมีวัตถุมงคลหลวงปู่โสติดตัว ซึ่งเป็นเหรียญหลวงปู่โสเก้า เหลี่ยม ตะกรุดมงคลจักรวาล เปิดเผยว่า หลวงปู่โส นับเป็นพระเถราจารย์ชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดขอนแก่น มีพระฝากตัวเป็นศิษย์ผู้สืบทอดปฏิปทาจากท่านมากมาย และท่านยังปฏิบัติศาสนกิจของท่านอยู่เสมอต้นเสมอปลาย ทั้งการอบรมธรรมะแก่พระเณร อุบาสก อุบาสิกา การพัฒนาวัด การต้อนรับศรัทธาญาติโยมที่มากราบเยี่ยมที่วัด ซึ่งมีมาไม่เคยขาดสายเลยแม้แต่วันเดียว ไม่ว่าจะอยู่ไกลขนาดไหนก็มา ด้วยบารมีแห่งแสงธรรมขององค์หลวงปู่โส ที่จริงแล้วหลวงปู่ไม่เคยดำริให้สร้างวัตถุมงคลเลย แต่จะมีศิษยานุศิษย์ขออนุญาตจัดสร้างเพื่อหาทุนทรัพย์สร้างสาธารณะกุศล หลวงปู่โสก็มีเมตตาให้จัดสร้างและอธิฐานจิตให้ โดยวัตถุมงคลที่หลวงปู่อธิฐานจิตให้ล้วนมีพุทธคุณวิเศษ มีประสบการณ์แก่ผู้บูชาทั้งสิ้น

 “หลวงปู่โส เป็นพระผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัยปฏิบัติตามคำสอนขององค์ศาสดามาโดยตลอด จนสอบเปรียญธรรมสนามหลวงเป็น "พระมหา" ได้สำเร็จ และในปีเดียวกันก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดศรีหมากหญ้า อ.เมือง แต่เป็นเจ้าอาวาสอยู่ได้เพียง 4 ปี หลวงปู่มหาโส ก็สละตำแหน่งเจ้าอาวาส และออกธุดงค์ต่อเพื่อแสวงหาสิ่งที่เรียกว่า "พ้นจากวัฏสงสาร" อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนาต่อไป”

 หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป เป็นศิษย์สายธรรมหลวงปู่มั่น และเป็นศิษย์ผู้พี่ของหลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต ท่านนับเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกรูปหนึ่ง นับตั้งแต่อายุ 70 ปี หลวงปู่พระมหาโสก็ไม่เคยออกจากวัดป่าคำแคนเหนือสู่สังคมทางโลกอีกเลยจนถึงปัจจุบัน สมัยก่อนท่านธุดงค์บำเพ็ญเพียรที่หุบเขาต่างๆ เช่น ภูพาน ภูผาแดง ภูเม็งฯลฯ และตั้งสำนักสงฆ์ที่หุบเขาภูเม็ง แต่ด้วยอุบาสกอุบาสิกาที่ไปถือศีลเป็นไข้ป่า ต่อมาเมื่อท่านจึงตัดสินใจย้ายลงมาอยู่ที่เชิงเขาภูเม็งจนถึงปัจจุบัน ท่านก็ได้มาปักหลักสร้างวัดป่าคีรีวันอรัญเขต (วัดป่าคำแคนเหนือ) ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น.

 ประวัติ หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป นามสกุลเดิม ดีเลิศ เกิดเมื่อวันจันทร์ ที่ 8 พ.ย. 2458 เวลาตี 2 (ตรงกับวันเพ็ญ เดือน 12 ปีเถาะ) ปัจจุบันสิริอายุ 100 ปี 3 เดือน 8 วัน สถานที่เกิด : เกิดที่ บ้านก่อ ต.หนองไข่นก อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี โยมบิดาชื่อ เคน โยมมาดาชื่อ ค้ำ มีอาชีพทำนา ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดา 9 คน

 บรรพชาใน ปีพ.ศ.2477 เมื่อมีอายุ 19 ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรกับหลวงปู่อุปัฌชาย์อ่อน ที่วัดบ้านก่อ (บ้านเกิดท่าน) เป็นการบวชหน้าไฟให้โยมมารดาซึ่งถึงแก่กรรมลง ตั้งใจจะบวชเพียง 3 พรรษา แต่เมื่อได้ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ครบกำหนดแล้ว ก็ธรรมทำความรู้ในพระธรรมวินัยด้านปริยัติแตกฉาน จนสอบได้ นักธรรมตรี นักธรรมโท และนักธรรมเอก ติดต่อกันมาทุกปี ในปี พ.ศ.2478 อายุครบ 20 ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา โดยมีพระอุปัฌชาอ่อน เป็นพระอุปัฌชาย์ ที่วัดบ้านเกิดนั่นเอง และได้จำพรรษาอยู่ที่นั่น
ญัตติเป็นธรรมยุติ
 
 ปี 2480 ท่านได้กราบลาพระอุปัฌชาย์อ่อนออกเดินทางติดตามพระอาจารย์มหาสีทน กาญจโน (ซึ่งเป็นญาติกันด้วย) โดยมีจุดหมายปลายทางที่ จ.อุดรธานี เมื่อเดินทางถึง จ.อุดรธานี หลวงปู่พระมหาสีทนได้นำท่านไปเปลี่ยนยัตติเป็นพระธรรมยุต ในวันที่ 17 ก.ค.2480 ณ วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมี ท่านเจ้าคุณพระเทพกวี (จูม พนฺธุโล) ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระธรรมเจดีย์ เป็นพระอุปัฌชาย์ มีพระครูสาสนูปกรณ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูประสาทคณานุกิจ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อยัตติแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิสมภรณ์
เป็นมหาเปรียญ
 
 หลวงปู่พระมหาโส เป็นพระผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัยปฏิบัติตามคำสอนขององค์ศาสดามาโดยตลอด ท่านแสวงธรรมทั้งในด้าน ปฏิยัติ(แสวงหาความรู้) ปฏิบัติ(แสวงธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า) ปฏิเวธ (แสวงหาธรรมด้วยปัญญาของตนเองเพื่อแสวงหาวิโมกติสุข) ถึงเวลาต่อมาในพรรษาที่ 12 ท่านก็ได้แตกฉากบาลี จนสอบเปรียญธรรมสนามหลวงเป็น "พระมหา" ได้สำเร็จ และในปีเดียวกันก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดศรีหมากหญ้า อ.เมือง ด้วย แต่เป็นเจ้าอาวาสอยู่ได้ เพียง 4 ปี หลวงปู่มหาโส ก็สละตำแหน่งเจ้าอาวาส และออกธุดงค์ต่อเพื่อแสวงหาสิ่งที่เรียกว่า"พ้นจากวัฏสงสาร"อันเป็นเป้าหมาย สูงสุดของพระพุทธศาสนาต่อไป

ที่มา  : ข่าวสด

[nongnai]

เลขท้าย 2 ตัว อ้างฝันเห็นแดงแจ๋! ไปหาซื้อที่แผง ก่อนวิ่งราวทีเดียว 15 ใบ



เลขอะไร คอหวยอยากรู้! หนุ่มวิ่งราวลอตเตอรี่ 15 คู่ เลขท้ายเดียวกัน อ้างฝันเห็นตัวแดงแจ๋ ลอยไปลอยมา ทำทีมาขอซื้อพอหยิบให้ทำรีรอ ก่อนคว้าวิ่งหนีโดนไล่จับได้คาดสติไม่ดี แม่ค้าในตลาดเห็นเหตุการณ์ ขอซื้อเหมาเอาไปหมดทั้ง 15 ใบ...

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 ก.พ.59 ร.ต.ต. เจริญชัย นิกูลการ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกไปตรวจสอบ หลังรับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นชาย วิ่งราวลอตเตอรี่ จากแผงค้าหน้าตลาดโรงเกลือ ถนนโพศรี ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี

พบนายชาญชัย เรืองเพชร อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 7 ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย เจ้าของแผง ผู้เสียหาย ให้การว่า เมื่อประมาณ 10 นาทีที่ผ่านมานี้เอง มีชายสวมเสื้อผ้าชุดสีดำ อายุราว 40 ปี รูปร่างผอม เตี้ย เดินมาเลือกซื้อหวยเลขท้าย 14 จำนวน 15 คู่ ราคา 1,200 บาท จึงได้หยิบเอาให้ไป คนร้ายกลับบอกว่าไม่มีเงิน พร้อมถอดนาฬิกาข้อมือ และแว่นตากันแดด วางไว้ให้ พร้อมกับกล่าวว่าจะกลับไปบ้านเอาเงินมาให้

นายชาญชัย เรืองเพชร ให้การต่อว่า ตนไม่ยอม และบอกให้เอาของคืนไป แล้วกลับไปเอาเงินสดมาซื้อ โดยจะเก็บลอตเตอรี่เลขนี้ไว้ให้ แต่คนร้ายทำท่าลุกลี้ลุกลน แล้วทันใดนั้นได้ออกวิ่งหนีไปตามถนน พร้อมกับลอตเตอรี่ 15 คู่ของตน ซึ่งเป็นเลขท้าย 14 ทั้งหมด ตนจึงได้ร้องขอความช่วยเหลือชาวบ้าน และพ่อค้าไก่ทอด ช่วยกันวิ่งไล่ติดตามจับตัวคนร้ายได้ ห่างจากแผงราว 50 เมตร

อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกจับตัวได้พร้อมของกลาง คนร้ายยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมกับก้มลงกราบที่เท้าตน ยอมสำนึกผิดที่กระทำต่อทรัพย์สินของตน เนื่องจากอยากได้ลอตเตอรี่ เลขท้าย 14 มาก เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมาฝันเห็นเลข 14 ตัวแดงแจ๋ ลอยมาลอยไป ตนจึงได้ยกโทษให้ และไม่ติดใจเอาความ เนื่องจากคนร้ายน่าจะเป็นคนเพี้ยนสติไม่สมประกอบ ก่อนปล่อยตัวไป แล้วนำลอตเตอรี่ เลขท้าย 14 ทั้งหมด กลับมาที่ไว้แผงขาย
ต่อมา ได้มีนางวิภาวัลย์ เพชรแก้ว อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 ม.7 ต.บ้านเลื่อม อ.เมืองอุดรธานี แม่ค้าขายผลไม้ในตลาดโรงเกลือ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ มาขอซื้อลอตเตอรี่ที่คนร้ายสติไม่ดีรายนี้วิ่งราวไปทั้งหมด เนื่องจากเชื่อว่าลอตเตอรี่ที่โดนวิ่งราวไปชุดนี้ น่าจะให้โชคกลับกันกับความซวยของเจ้าของแผง

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ถ่ายรูปลงไลน์ของ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูล ถึงแม้ว่าผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความก็ตาม พร้อมประชาสัมพันธ์ต่อพ่อค้าแม่ค้า ลอตเตอรี่ ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ให้ระวังหนุ่มเพี้ยนรายนี้เอาไว้ เพราะอาจจะไปก่อเหตุขึ้นอีกก็ได้.
ที่มา  : ไทยรัฐออนไลน์

[nongnai]

สาวชาวเลยตายคารถเมล์! ตรากตรำเร่ขายลอตเตอรี่ กับเลขเด็ดชุดสุดท้าย



ชีวิตคนขายลอตเตอรี่ สาวชาวเลยมาปักหลักเร่ขายกับครอบครัวอยู่ที่ปากน้ำ ออกจากบ้านตีสี่ นำสลากฯ ที่ถูกเลขท้าย 2 ตัวไปขึ้น พร้อมรับชุดใหม่ 500ใบมาขาย นั่งรถเมล์ถึงหน้า สภ.สำโรงเหนือ กระเป๋าวิ่งไปบอก ตร.มาดู พบนั่งตายคาที่นั่ง ...

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ก.พ. 59 ขณะที่ พ.ต.ต.สุทิน พุ่มพวง สว.สอบสวน จ.สมุทรปราการ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มีพนักงาน ขสมก.วิ่งขึ้นมาขอความช่วยเหลือ ว่ามีผู้โดยสารเป็นลมหมดสติอยู่บนรถเมล์ปรับอากาศยูโร สาย 511 สีส้ม หมายเลขทะเบียน 13-0624 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บริเวณหน้า สภ.สำโรงเหนือ ถนนสุขุมวิท อ.เมืองสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานขอรถกู้ชีพมาให้การช่วยเหลือ
จุดเกิดเหตุ บนรถคันดังกล่าว บริเวณเก้าอี้นั่งที่ 5 ฝั่งขวาหลังคนขับ ซึ่งเป็นที่นั่งเดี่ยว พบร่างผู้หมดสติเป็นหญิงวัยกลางคน ทราบชื่อต่อมา คือ นางทองคิด อินต๊ะแสน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158 ม.3 ต.ห้วยบ่อชื่น อ.ปากชม จ.เลย สภาพนั่งคว่ำหน้าคาอยู่กับพนักพิงด้านหน้า เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบชีพจรเบื้องต้น จึงทราบว่านางทองคิดได้เสียชีวิตไปก่อนแล้ว จึงแจ้งให้แพทย์จาก รพ.สมุทรปราการ เดินทางมาชันสูตรพลิกศพ ตรวจในกระเป๋าสะพายข้างสีน้ำตาล พบลอตเตอรี่ จำนวน 500 ใบ และเงินสดจำนวนหนึ่ง ตามร่างกายไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายแต่อย่างใด

สอบถาม นายวิชิต กัลยาโพธิ์ อายุ 48 ปี ผู้โดยสารซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและผู้ตายได้ขึ้นรถเมล์คันดังกล่าวมาจากป้ายหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถนนราชดำเนิน เพื่อที่จะมาลงที่ป้ายอิมพีเรียลเวิลด์สำโรง สมุทรปราการ โดยตลอดเส้นทางรถคันนี้มีผู้โดยสารค่อนข้างแน่นจนต้องยืนเบียดเสียดกัน ระหว่างทางตนสังเกตเห็นว่าผู้ตายดูมีท่าทีอ่อนล้า แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นอะไรไปแบบปัจจุบันทันด่วนแบบนี้ กระทั่งรถวิ่งมาถึงป้ายแยกประตูน้ำ ถนนเพชรบุรี ผู้โดยสารบางส่วนเริ่มลงจากรถ ทำให้มีที่นั่งว่าง ผู้ตายจึงได้นั่งเก้าอี้ด้านหลังคนขับ ก่อนที่จะเอนหลังและหลับไป
"จนมาถึงป้ายแยกอุดมสุข พบว่าศีรษะของผู้ตายได้ไหลลงไปซุกอยู่กับพนักพิงเหล็กเก้าอี้ด้านหน้านานผิดปกติ ผู้โดยสารที่อยู่บนรถจึงได้เข้าไปปลุกแต่ไม่ตื่น จึงไปแจ้งให้พนักงานเก็บค่าโดยสาร และช่วยกันนำยาดมมาให้สูดดมพร้อมกับนวดมือ เพื่อบรรเทาอาการ แต่ผู้ตายก็ยังไม่ฟื้นจนมาถึงหน้า สภ.สำโรงเหนือ คนขับจึงได้จอดรถและให้พนักงานเก็บเงิน วิ่งลงไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพมาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงจึงทราบว่าได้เสียชีวิตแล้ว" นายวิชิต กล่าว

ต่อมา นายสำราญ อินต๊ะแสน อายุ 64 ปี สามีผู้ตาย พร้อม น.ส.เสาวลักษณ์ อินต๊ะแสน อายุ 23 ปี บุตรสาว ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อทั้งสองเห็นร่างผู้ตาย ได้รีบเข้าไปกอดและร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ นายสำราญ กล่าวว่า ครอบครัวตนเดินทางมาจาก จ.เลย เพื่อมาขายลอตเตอรี่หาเลี้ยงชีพ โดยเช่าห้องพักเล็กๆ อาศัยอยู่ด้วยกันที่ ซอยด่านสำโรง 22 วันนี้ ช่วงประมาณ 04.00 น. ภรรยาได้เดินทางออกจากห้องพักเพียงลำพัง เพื่อจะนำลอตเตอรี่ที่ถูกเลขท้าย 2 ตัว จำนวน 3 ใบไปขึ้นเงินรางวัล และรับลอตเตอรี่จากสำนักงานสลากฯ มาแบ่งกันเร่ขาย
นายสำราญ กล่าวด้วยว่า หลังจากเสร็จธุระ ภรรยาได้เดินทางกลับ ระหว่างทางตนได้โทรพูดคุยกับภรรยาครั้งสุดท้าย ขณะภรรยากำลังนั่งรถเมล์ แต่ไม่คิดว่าผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงจะได้รับข่าวร้ายว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ภรรยาไม่เคยบ่นหรือเล่าให้ฟังว่าป่วยไข้เป็นโรคอะไร เพียงแต่ 4-5 วันที่ผ่านมา ได้บอกกับเพื่อนว่าเจ็บหน้าอกเท่านั้น

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต แพทย์ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากสาเหตุใด จึงมอบศพให้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ นำส่งชันสูตรที่นิติเวชฯ รพ.ตำรวจ อีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ลอตเตอรี่ชุดสุดท้ายที่ผู้ตายไปรับมาจากกองสลากฯ เป็นชุดใหญ่ ได้รับความสนใจจากชาวบ้านมามุงดู รวมทั้งเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะลอตเตอรี่ใบที่อยู่ด้านบน เลข 717701 หลายคนกะเก็งว่าจะเป็นเลขเด็ดของงวดวันที่ 1 มีนาคมนี้.

ที่มา  : ไทยรัฐออนไลน์

[nongnai]

บรรยากาศหวยเชียงใหม่ เลขอดีตรัฐมนตรีกลับมาอีกครั้ง - ของครูบาดังภาคเหนือก็ขายดี


บรรยากาศหวยเชียงใหม่ เลขอดีตรัฐมนตรีกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ผิดพลาดมาหลายงวด ปรับปรุงการคำนวณใหม่ 31, 36 เลขเด็ดเข้าออกนิโรธกรรม และอายุของครูบาน้อยครูบาดังภาคเหนือก็ขายดี เลข 65,18,21,2494 เลขรถเก๋งคนพิการไฟไหม้ก็มาแรง 696
 
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 28 ก.พ. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศหวยที่เชียงใหม่ ประชาชนพากันหาซื้อเลขเด็ดกันอย่างต่อเนื่อง บ้างก็เอาเลขเด็ดจากการเกิดรถยนต์เกิดไฟไหม้ที่เป็นข่าวปรากฏ ราคาหวยนั้นแม่ค้าพ่อค้ายังคงขายในราคาคู่ละ 80 บาท
 
ส่วนทางด้านเลขเด็ดของอดีตรัฐมนตรี ปรีดา พัฒนถาบุตร โดย  พล.ต.ต.นิธิพัฒน พัฒนถาบุตร ผบก อก ภ.5 ได้เปิดเผยว่า พ่อของตนท่านก็ได้คำนวณโหรดวงดาวศาสตร์ของท่านเรื่อยมา และที่หายเงียบไปหลายงวดเนื่องจากท่านเห็นว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นและแทรกแซงดวงดาวหลายต่อหลายครั้งและดวงของบุคคลสำคัญเลขของบุคคลสำคัญก็มาชนกันหลายแห่งทำให้เลขโหรดวงดาวของท่านคลาดเคลื่อน จึงได้งดบอกเลขเด็ดให้กับลูกหลานไป และครั้งนี้ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีแล้ว ทุกอย่างเริ่มสงบ พ่อของตนท่านก็ได้คำนวณเลขโหรดวงดาวของท่านและบอกให้กับลูกหลานไปหาซื้อมาให้ท่าน อีกครั้ง แบบมีการพัฒนาปรับปรุงวิธีคิดใหม่  โดยเลขงวดนี้พ่อของตนท่านบอกให้ลูกหลานไปหาซื้อเลข 3 หลักสิบ เน้น ล่าง 31,36 ก็ขอให้ประชาชนที่ได้รับทราบเรื่องนี้ก็ขอให้ใช้ดุลยพินิจ ในการตัดสินใจด้วย เพราะเป็นเลขของพ่อตนท่านคำนวณตามความเชื่อของท่าน 
 
สำหรับเลขเด็ดในช่วงนี้ นอกจากเลขเด็ดของอดีตรัฐมนตรี ที่ท่านให้มา และถึงแม้จะคลาดเคลื่อนมาหลายงวดแล้วก็ตาม แต่ประชาชนก็ยังให้ความสนใจเฝ้าติดตาม เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับเลขเด็ดจุดอื่นว่าใกล้เคียงหรือตรงกันไหม เพื่อให้การตัดสินใจในการซื้อเลขเด็ดได้มั่นใจขึ้น หากเลขเด็ดของแต่ละสำนักตรงกันหลายจุด ก็ทำให้เลขเด็ดเลขนั้นมาแรง ตอนนี้เลขของอดีตรัฐมนตรี มาแรงสุด รวมทั้งเลขเด็ดจากรถยนต์ที่เกิดเพลิงไหม้ต่างๆ
 
โดยที่เชียงใหม่ นั้นเลขเด็ดรถเก๋งที่เกิดเพลิงไหม้ เมื่อวันที่ 24 กพ 59 ที่ผ่านมา ก็เป็นของพ่อค้าขายหวยพิการ ที่เกิดอาการลมชักและรถเสียหลักเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถ บริเวณถนนเชียงใหม่หางดง ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ เลขทะเบียน 696 โดยชาวบ้านที่เห็นและที่ทราบข่าวต่างนำมาตีเป็นเลขเด็ด 696 นอกจากนี้เลขเด็ดของครูบาน้อยเตชปัญโญ เจ้าอาวาสวัดศรีดอนมุล อ.สารภีเชียงใหม่ ที่เพิ่งเข้าออกนิโรธกรรมไปเมื่อวันที่ 21 กพ 59 ที่ผ่านมา เลขอายุครูบาน้อยเตชปัญโญ 65, และเลขเข้าออกนิโรธกรรม 18,21 รวมทั้ง พศ.เกิดของครูบาน้อย 2494 ก็ขายดีเช่นกัน ที่เชียงใหม่


ที่มา  : ข่าวสด

[nongnai]

สิบอันดับเลขขายดีแม่จำเนียรมาแล้วครับ