ชมรมเจ้ามือหวย
 
*
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน กันยายน 28, 2024, 05:19:25 am


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น


ผลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวด 16 กรกฎาคม 2565 รางวัลที่ 1 620405 รางวัล3ตัวหน้า 159 834 รางวัล3 ตัวท้าย 279 061 รางวัลเลขท้าย 2ตัว 53




เว็บโปรแกรมเจ้ามือหวย



ทำงานแบบมีหลักการ ไม่กล้าจนเกินตัว ไม่กลัวจนเกินเหตุ
ปณิธานของชมรมเจ้ามือหวย
ทางชมรมเจ้ามือหวย หวังแค่เพียงเพื่อนๆ อยู่กันแบบเป็นพี่เป็นน้อง จริงใจ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ร่วมมือกันในการแบ่งปันข้อมูล มีอะไรดีๆ ก็นำเสนอแก่เพื่อนสมาชิก เพื่อเป็นแนวทางในการทำงาน
หรือระวังป้องกันให้ชาวชมรมได้อยู่ในวงการตลอดไปนานเท่านาน
ขอบคุณจากใจจริง
nongnai


หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เซลล์เม็ดเลือดขาว cd4 กับลาดเลาการแพทย์แผนปัจจุบันในการปกป้องผู้ป่วยโรคเอดส์  (อ่าน 753 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
JoshuaPowell25Topic starter
ขายของ
Hero Member
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เข้ามาล่าสุด:ธันวาคม 28, 2017, 11:40:46 pm
กระทู้: 7729

จาก

ระบบปฏิบัติการ::
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
บราวเซอร์::
Safari Safari


อีเมล์
« เมื่อ: มิถุนายน 14, 2017, 03:14:08 pm »

ในช่วงปัจจุบันวิวัฒนาการทางการแพทย์ล้ำสมัยก้าวหน้าไปมาก ทำให้การวินิจฉัยโรคต่างๆ สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว และช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตหรือพิกลพิการของผู้ป่วยได้เยอะแยะ

ทีนี้เรามาดูกันว่าหมอมีวิธีการวินิจจัยและจ่ายยาต้านไวรัสให้ผู้เจ็บป่วย โดยพินิจจากปริมาณเม็ดเลือดขาวหรือ cd4 เช่นไร cd4

แต่ถ้าบอกถึงชื่อย่อ cd4 อาจจะไม่รู้ว่าคืออะไร ขอขยายความง่ายๆ ครับว่า cd4 บางโอกาสถูกเรียกว่า T-cells หรือ T-helper cells เป็นเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งจัดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส ซึ่งเจ้าเซล์เม็ดเลือดชนิดนี้มีความสำคัญต่อการวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวี อีกด้วยเพราะเป็นเซลล์ที่เชี้อเอชไอวีเข้าไปจู่โจมทำลาย

ในปัจจุบันมียาต้านไวรัสเอดส์ส่วนใหญ่ ออกฤทธิ์สกัดการเพาะพันธุ์ทำให้เชื้อไวรัสเอดส์เบาลงได้ และช่วยดูแลไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าไปทำร้ายเซลล์เม็ดเลือดขาวตระกูล T-cell

ค่าปกติเม็ดเลือดขาวหรือ WBC คือ ประมาณ 5000-10000 cells/cu.mm.ส่วนค่า % Lymp จะไม่เหมือนกัน บางท่านสูง บางท่านต่ำ ค่าธรรมดาของ % Lymp อยู่ในช่วงใกล้เคียง 19-48% ฉะนั้นจึงต้องดูค่าทั้ง 3 อย่างเเละนำไปใส่สมการสูตรคำนวณออกมา

การลดอย่างมากมายของเซลล์เม็ดเลือดขาวจะเป็นสัญญาณของอาการที่จะเกิดขึ้นก่อน 1 ปี ก่อนที่จะวินิจฉัยว่าคนป่วยเป็นโรคเอดส์อย่างสมบูรณ์ การดูแลร่างกายที่ดีจึงควรเข้ารับการตรวจตราวัดระดับเซลล์เม็ดเลือดขาว (cd4) อย่างสม่ำเสมอ เสนาะระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวมีความสำคัญอย่างมากที่จะใช้เป็นแนวทางในการรักษา หรือการให้ยาต้านไวรัสแก่ผู้ป่วยเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนบางชนิด เช่น ระดับ T-cells น้อยกว่า 200 แพทย์จะให้การดูแลคุ้มกันโรคปอดอักเสบ เป็นต้น

โดยระดับปกติของ T-cells ในคนที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวี จะอยู่ระหว่าง 400 – 1600 ต่อเลือด 1 ลบ.มม. และ T-cells ของหญิงที่ไม่ติดเชื้อเอชไอวี นั้นจะมีแนวโน้มที่สูงกว่านิดหน่อย คือ 500 – 1600.

โดยเหตุนั้นค่าที่เป็น Absolute cd4 จึงเป็นค่าที่นำไปเป็นหลักเกณฑ์การรับยาต้านไวรัส ถ้าค่า cd4 ต่ำกว่า 200 ลงมา ก็ไปพบคุณหมอเพื่อขอทานยาต้านไวรัสได้เลย แม้กระนั้นถ้ายังสูงมากกว่า 200 ก็อย่าเพิ่งบริโภคยาต้าน ให้เยียวยารักษาตามอาการเเทรกซ้อนด้วยยาเฉพาะโรคอื่นๆ ไปก่อนครับ ซึ่งยาต้านไวรัสเอดส์หรือบางท่านเรียกสั้นๆ ว่า
ยาต้าน
 ศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า
เออาร์วี
 (ARV) ย่อมาจาก antiretroviral

ผู้ที่ติดเชื้อที่ระดับเซลล์เม็ดเลือดขาวร่อยหรออย่างเร็วในช่วงติดเชื้อใหม่และไม่สามารถรักษาระดับเซลล์เม็ดเลือดขาวให้เท่าเดิมได้ มีความเอนเอียงที่จะมีอาการของโรคเอดส์เร็วกว่าปกติครับ เมื่อใดที่การตรวจสอบวัดระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวอยู่ที่ 200-500 นั่นเสนอว่าระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ถูกทำร้ายแล้ว

ยาต้านไวรัสเอดส์ส่วนใหญ่ใช้ได้ผลดี แต่ก็ยังอาจพบอุปสรรคของการใช้ยาบางชนิด ได้แก่ อุปสรรคจากผลข้างเคียงของยา ตัวปัญหาการดื้อยาทั้งในระยะสั้นและระยะ

เซลล์ตัวนี้มีความสำคัญตรงที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวบังคับการระบบภูมิต้านทานทั้งสิ้น พอเซลล์นี้ถูกทำร้ายไประบบภูมิคุ้มกันก็ทำงานผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถคุ้มครองร่างกายจากเชื้อโรคแตกต่างๆ ได้ เมื่อร่างกายติดไวรัสเหล่านี้เข้าพร้อมๆ กันก็จะเกิดเป็นโรคเอดส์ท้ายสุด การสำรวจหาจำนวนของ T-cells จึงเป็นตัวช่วยบ่งชี้ว่าระบบภูมิต้านทานของร่างกายยังทำงานดีอยู่หรือเปล่า และเชื้อเอชไอวีทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแย่ไปจนถึงเวลาที่ต้องรับยาต้านไวรัสหรือยัง

แม้ว่าว่าถ้าคุณไม่มีเชื้อ เอชไอวี แต่ก็ยังมีหลายเหตุที่มีผลต่อปริมาณ T-cells เช่น T-cells ของสตรีจะขึ้นและลงในช่วงที่มีรอบเดือน ยาคุมชนิดเม็ดจะทำให้ปริมาณ T-cells ถดถอยได้ หรือในบางขณะที่ร่างกายพักผ่อน T-cells จะลดระดับลงและลดลงได้มากถึง 40% เป็นอาทิ

โดยปกติร่างกายจะผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวไม่กี่ล้านเซลล์ แต่เจ้าไวรัสเอชไอวี สามารถแบ่งตัวได้มากถึงวันละหมื่นล้านตัว นับว่าเป็นเลขที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนจนน่าตระหนกเลยใช่มั้ยครับ

ซึ่งเซลล์เม็ดเลือดขาวเองก็เป็นพารามิเตอร์แบบอย่างที่แพทย์ใช้ในการวินิจฉัยโรคในเบื้องต้น

ปัจจุบันเราใช้จำนวนเซลล์ cd4-T lymphocyte และปริมาณเชื้อ viral load หรือ HIV RNA มาเป็นตัวบอกระยะและพยากรณ์ของโรค ตัวอย่างเช่น ผู้ที่มีจำนวนรวมเซลล์เม็ดเลือดขาวT lymphocyte มากกว่า 500 cells/mm3 จะมีโอกาสเสี่ยงต่ำในการเกิดโรคเอดส์และโรคภัยไข้เจ็บแทรกซ้อนอื่นใน 3 ปี การเจาะตรวจ T-cells ควรจะเจาะทุก 3-6 เดือนขึ้นกับสภาพของผู้ป่วย ผู้ที่เจาะได้เซลล์ปริมาณน้อยก็ต้องเจาะถี่ขึ้น ส่วนผู้ที่มีเซลล์มากก็เจาะทุก 6 เดือน
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.20 | SMF © 2006-2009, Simple Machines

Valid XHTML 1.0! Valid CSS! Dilber MC Theme by HarzeM
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.201 วินาที กับ 22 คำสั่ง