โรคเบาหวาน เป็นอย่างไร มาลองทำความรู้จักมักจี่กันให้เพิ่มขึ้นดีกว่า

[JoshuaPowell25]

 ชนิดที่ 2 เป็นเบาหวานที่คนโดยมากเป็นกันครับผม เรามักจะเข้าใจว่า ต้นเหตุจากคนที่ทานอาหารหวานบานเบอะๆ เลยเป็นเบาหวาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การบริโภคหวานไม่ได้เป็นสาเหตุในการเกิดขอรับ เพียงแต่ว่า เมื่อเป็นแล้ว การบริโภคหวานจะทำให้อาการแย่ลงนั่นเอง ซึ่งจริงๆ แล้วแล้ว เบาหวานกลุ่มนี้ สาเหตุของการเกิด ก็ยังไม่แน่ชัดค โรคเบาหวาน
  ในสมัยนี้แบ่งออกเป็นสองชนิด ที่ไม่ว่าประเภทใดก็ส่งผลกระทบต่อร่างกายอยู่ที่ว่ามากหรือน้อยโดย เบาหวานชนิดที่ 1 ถือได้ว่า ร้ายแรงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ก็เพราะว่า เบาหวานประเภทนี้ เกิดจาก ภูมิต้านทานของตัวเรา ไปทำลายเซลล์ที่มีภาระสร้างอินซูลิน ซึ่งเกิดจากปัจจัยของร่างกายเราเอง ที่ไปทำลายเซลล์ จนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ หรือสามารถผลิตได้ในปริมาณที่นิดหน่อย และหากว่าเรามีอาการเบาหวานชนิดนี้วิกฤต ก็จะหลั่งสารชนิดหนึ่งออกมาเป็นมากมาย เราเรียกสารนี้ว่า คีโตน ซึ่งเป็นสารพิษต่อระบบประสาทในร่างกายเป็นขนานใหญ่ หากหลั่งมากก็อาจทำให้เกิดอาการไม่มีสติ หรือเลวร้ายที่สุดก็คือ เสียชีวิตได้ คนเป็นเบาหวานประเภทนี้ถือได้ว่า อันตรายมาก และจะต้องมีการฉีดอินซูลิน เข้าไปในร่างกายทั้งหมด เพราะไม่สามารถกำเนิดได้เอง แต่เราต้องควบคุมน้ำตาลในเลือด นั่นเองเพราะว่า โรคเบาหวาน โรคเบาหวาน
  มากันค่อนข้างจะมาก เพราะ ถือได้ว่าโรคพวกนี้เป็นโรคยอดฮิตประเภทต้นๆที่คนไทยมักเป็นกันเลย แม้ว่าคนที่เป็นโรคนี้อาจจะไม่ได้เป็นน่ากลัวถึงกับชีวิต แต่อาการแทรกซ้อนต่างๆที่เกิดจากโรคนี้ อาจจะอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็ได้ เราคงเคยได้ยินกันมาบ้างว่า มีหลายคนตาบอด เสียอวัยวะ ต้องตัดแขน ตัดขา เพราะต้นเหตุมาจากโรคชนิดนี้ หลายคนคิดว่า เจ้าโรคนี้ค่อนข้างห่างจากตัวเรามาก เนื่องจากตัวเราอายุยังน้อย อีกทั้งก็เป็นคนที่ไม่ชอบทานหวานอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะเป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งในความเป็นจริงแม้ว่า เบาหวาน จะเกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลในโลหิตโดยตรง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่ไม่ทานหวานจะไม่มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนี้ ดังนั้นแล้ว เพื่อการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง การป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากโรคจำพวกนี้ ในวันนี้เราจึงมาชี้แจงให้ฟังและทำความรู้จักมักจี่เกี่ยวกับ เบาหวาน ให้มากยิ่งขึ้นครับ ไม่แน่ว่า เรื่องต่างๆที่คุณเคยได้ยินมา อาจจะเป็นเรื่องหลงผิดก็เป็นได้อย่างที่เราพอทราบข่าวกันมาบ้างแล้วว่า  โรคเบาหวาน

  และส่วนมากร้อยละ 80 เป็นชาวเอเชียด้วย ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงมี วันเบาหวานโลก โดยเจาะจงให้เป็นวันที่ 14 พฤศจิกายน ทุกปีนั่นเอง เพื่อที่จะให้คนทั้งโลกเห็นความสำคัญและอันตรายของโรคชนิดนี้ และเป็นการรณรงค์เพื่อป้องกันกัน อีกด้วยหลายคนอาจจะยังไม่มีความรู้ความหมายเกี่ยวกับเรื่องของ เบาหวานและอินซูลิน กันสักเท่าใดนัก อ่านตอนแรกๆอาจจะดูงง<span style=
line-height: 1.42857;
>นะครับ แต่ เราลองมาทำความรู้ความเข้าใจกันอย่างละเอียดดีกว่า โดย อินซูลินเอง เป็นฮอร์โมนประเภทหนึ่ง ที่ถูกสร้างโดยตับอ่อน โดยฮอร์โมนในร่างกายแต่ละตัวก็มีหน้าที่ผิดแผกแตกต่างกันไป ซึ่งเจ้าอินซูลินนี่เอง มีหน้าที่ ในการนำน้ำตาลในเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนแตกต่างๆของร่างกาย สามารถเรียกได้ว่า ผู้บัญชาน้ำตาล เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าน้ำตาลจะไปให้พลังงานกับส่วนไหนของร่างกาย อินซูลินจะเป็นผู้บริหารจัดการครับ เมื่อเกิดสภาพ เบาหวาน ก็จะทำให้ร่างกายผลิตอินซูลิน ได้น้อยลง และไม่พอเพียงต่อการดูแลจัดการน้ำตาลในร่างกายนั่นเอง เมื่อไม่มีการบังคับบัญชาบริหารจัดการแล้ว ก็จะทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดเพิ่มเติมมากขึ้น โดยไม่สามารถพาไปใช้ในส่วนอื่นๆของร่างกายได้นั่นเอง</span> โรคเบาหวาน
[youtube]youtube.com/watch?v=LUgwqDoF1ew[/youtube]
 หลายคนโดยมากจะเคยได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องของ  โรคเบาหวาน
  เกิดจากความเพี้ยนของร่างกาย ที่ไม่สามารถผลิตอินซูลิน ได้พอเพียงต่อความประสงค์ ตัวอินซูลินนี่เองเป็นตัวคุมระดับน้ำตาลในโลหิต เมื่อเกิดอาการผิดปกติ ผลิตได้ไม่เพียงพอแล้ว จึงทำให้ ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากเกินไป เมื่อมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมาก และร่างกายผลิตอินซูลินมา ไม่พอต่อความต้องการ ก็จะทำให้ ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้อย่างมีสมรรถนะสูงสุดนั่นเอง หลังจากนั้น เมื่อมีน้ำตาลในเลือดจำนวนมาก ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานอื่นๆในร่างกาย และจะไปทำร้ายหลอดเลือดพร้อมด้วย ซึ่ง หากว่าตัว เบาหวานเอง จะเป็นเพียงเรื่องของ น้ำตาลในเลือดสูงมากเกินไป แต่ผลที่ตามมาก็คือ ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหลอดเลือดหัวใจ การติดเชื้อง่าย ร่างกายซูบผอม ฯลฯ ดังนั้นแล้ว หากว่าไม่เยียวยารักษาอาการเบาหวานอย่างถูกต้อง ก็มีความเสี่ยงสูงต่อโรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่จะตามมาขอรับรับทราบหรือไม่ครับว่า เรามีประชากรมากกว่า 300 ล้านคนเป็น  โรคเบาหวาน