กลยุทธ์ในการติวสอบเข้าม.1อย่างไรให้สำเร็จสมปรารถนากับโรงเรียนที่ต้องการ

[JoshuaPowell25]

 โดยทั่วไปของนักเรียนแต่ละคนมักจะมีวิธีการที่คล้ายๆ กัน คือ ขยันเรียนในห้องเรียนให้เข้าใจ และสอบให้ได้เกรดดีๆ และอ่านหนังสือหรือเรียนพิเศษเพิ่มเติมเพื่อเป็นการเตรียมตัวสอบเข้าโรงเรียนมัธยมที่อยากเรียน  แต่เพราะในยุคปัจจุบันมีการชิงดีชิงเด่นทางด้านการศึกษาค่อนข้างสูง ทำให้รูปแบบการเตรียมตัวสอบเข้า ระดับมัธยมมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองที่สนับสนุนบุตรหลานต้องทำการพิจารณาถึงรายละเอียดปลีกย่อยที่มีความพิเศษหรือลงตัวกับโรงเรียนมัธยมที่ตั้งเป้าหมายจะให้บุตรหลานเข้าเรียนมากที่สุด ส่วนใหญ่ในเมืองนั้น โรงเรียนมัธยมที่ได้รับความนิยมมากจะเป็นโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา หรือโรงเรียนประจำจังหวัดของแต่ละจังหวัด เพราะมักจะมีการตรวจสอบหรือข้อสอบที่มีระดับความยากสูงกว่าโรงเรียนมัธยมทั่วไปซึ่งไม่ได้มีชื่อเสียงหรือได้รับความนิยมมาก ติวสอบเข้าม.1
 ทำให้ก่อนการ ติวสอบเข้าม.1
 พ่อแม่ผู้ปกครองและบุตรหลาน จึงควรหันมาคุยและปรึกษากันให้เข้าใจเสียก่อนว่าโรงเรียนมัธยมที่อยากสอบเข้าเพื่อเรียนต่อคือโรงเรียนใด ? เพราะจะช่วยกำหนดเนื้อหาที่ต้องการจะคำนึงและแบบทดสอบที่ต้องทำให้ตรงประเด็นกับโรงเรียนที่ตั้งใจจะสอบเข้าให้ได้มากที่สุด  และยังเป็นการเพิ่มโอกาสสอบติดให้มีมากขึ้น โดยทุกอย่างขึ้นอยู่กับการวางเป้าหมายของแต่ละคน ทำให้การเลือกโรงเรียนมัธยมให้ลูกส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ไม่ตายตัว  แต่อย่างไรก็ดีการเตรียมความพร้อมเร็วกว่าและนานกว่า ย่อมเป็นเหตุที่ช่วยส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ง่ายกว่าเสมอ ติวสอบเข้าม.1
 หากพ่อแม่ผู้ปกครองอยู่ต่างจังหวัดหลักในการเลือกโรงเรียนที่จะ ติวสอบเข้าม.1
  ไปจนกว่าจะสอบเข้า ม.4และติวตั้งแต่ชั้น ม.4  เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมต่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ง่ายขึ้น ซึ่งการเตรียมตัวอวัยวะสอบจะช่วยให้เด็กมีความพร้อมในสนามสอบแข่งขันมากกว่าคนอื่น และช่วยเพิ่มโอกาสให้สอบติดหรือเข้าเรียนในสถาบันที่ได้ตั้งใจไว้ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันการศึกษาที่มีคนอยากเข้าเรียนเยอะ ๆ ที่มีการแข่งขันสูง คนที่จัดร่างมานานจะมีความได้เปรียบมากกว่าคนที่เตรียมตัวน้อยกว่า  ซึ่งในช่วงระยะเวลาของการเตรียมตัวสอบเข้า ม.1ผู้ปกครองมักจะให้ลูกๆ ได้เตรียมตัวตั้งแต่อยู่ในช่วงตั้งแต่ ป.4 - ป.6 ซึ่งถือเป็นระยะเตรียมตัวของการเปลี่ยนสถานะจากนักเรียนประถมก่อนที่จะเป็นนักเรียนมัธยม และต้องเตรียมตัวเปลี่ยนชีวิตในรั้วโรงเรียนและหลักสูตรการศึกษา โดยมีการเปลี่ยนหลักคิดถึง และหลักการเรียนการสอนไปจากเดิม ซึ่งจะต้องเริ่มมีความรับผิดชอบตัวเองให้มากขึ้น ติวสอบเข้าม.1
 หลักในการเตรียมตัว ติวสอบเข้าม.1
 โรงเรียนประจำจังหวัดเป็นโรงเรียนที่น่าเรียนที่สุด เพราะนอกจากจะใกล้บ้านแล้ว ยังมีสิ่งแวดล้อมและมาตรฐานการเรียนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีหรือหากผู้ปกครองอยู่ในกรุงเทพอาจเลือกโรงเรียนมัธยมดีดีมีอยู่หลายโรงเรียน และส่วนใหญ่จะค่อนข้างได้มาตรฐานอยู่แล้ว ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้เลือกโรงเรียนที่สอนตั้งแต่ระดับชั้น ม.1 - ม.6เพราะจะได้ไม่ต้องสอบเข้า ม.4 ให้ลำบากหรือหากมีการสอบกันจริงๆเด็กนักเรียนจากม. 3 มักจะมีโควต้าหรือสิทธิพิเศษ เพื่อช่วยให้เข้าเรียนต่อ ม.4 ได้ง่ายและสะดวก ซึ่งการเลือกโรงเรียนมัธยมพ่อแม่มักคิดว่าเป็นหน้าที่ของตัวเอง แต่ในความเป็นจริงแล้วคนเรียนคือลูก ลองถามด้วยว่าลูกเห็นด้วยหรือไม่ วิชาที่ต้องเตรียมสอบก่อนเข้า ม.1ที่เด็กๆ บ่นว่าชั่วก็คือวิชาคณิตศาสตร์ วิชาภาษาอังกฤษและวิทยาศาสตร์ซึ่งการเรียนการสอนในโรงเรียนประถมในแต่ละโรงเรียนจะสอนเด็กนักเรียนได้ครบตามหลักสูตรของ พสวท. อยู่แล้ว โดยคุณครูจะสอนในลักษณะของเนื้อหาและการทำแบบฝึกหัดเป็นหลักติวสอบเข้าม.1 ติวสอบเข้าม.1
 ตั้งแต่หลังจบ ป.6 ซึ่งน่าจะเป็นการปูขั้นพื้นฐานที่ดีก่อน เป็นการเตรียมตัวและเตรียมพร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ  เพื่อจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย คณะและสาขาวิชาที่ต้องการได้ ทำให้การเลือกโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเป็นส่วนหนึ่งที่คาดตำหนิน่าจะมีสิ่งแวดล้อมที่ดีและมีมาตรฐานการศึกษาที่สูงกว่า ติวสอบเข้าม.1
 เป็นคำถามที่พ่อแม่ผู้ปกครองถามกันอยู่เสมอว่าจะเรียนที่ไหนดี ? เป็นส่วนใหญ่แล้วพ่อแม่ผู้ปกครองมักตั้งเป้าหมายโรงเรียนที่คิดว่า ต้องมีสิ่งแวดล้อมที่ดี วิชาการแน่น เพื่อที่จะได้ช่วยเกื้อหนุนให้ลูกมีความรู้เพื่อนำไปสอบในสนามสอบ ซึ่งอยู่ในระดับชั้นถัดไป โดยเริ่ม ติวสอบเข้าม.1
 การเลือกโรงเรียนมัธยมส่งมอบกับลูกเป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองหลายท่านวิพากษ์วิจารณ์ต่างยับยั้งเพราะผู้ปกครองบางคนคิดว่าเด็กอายุยังไม่มากนักศักยจะยังไม่ต้องเรียนโรงเรียนที่มุ่งเน้นวิชาการมากก็ได้ เดี๋ยวค่อยไปเริ่มภายหลังที่เข้า ม.4 เลยทีเดียวดีกว่า เลยเลือกโรงเรียนใกล้บ้านที่ฉลุยในการไปรับไปส่ง ส่วนบางคนคิดว่าเด็กควรจะจะต้องเตรียมตัว ติวสอบเข้าม.1